วันนี้ (14 ส.ค.) ที่ กองปราบปราม พ.ต.ท.ณัฐพงษ์ เกิดเอี่ยม รอง ผกก.4 บก.ป. ซึ่งได้ออกหมายเรียก พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.กระทรวงพาณิชย์ และ น.ส.อุรชา วชิรกุลฑล หรือ ป้อนข้าว อดีตโบรกเกอร์ เพื่อให้เข้ามารับทราบข้อกล่าวหาเพิ่มเติมในคดีร่วมกันฟอกเงิน ซึ่งเป็นคดีที่สืบเนื่องจากมาจากคดีการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด ที่เสียชีวิตหลังเกิดอุบัติเหตุทางรถยนต์ขณะที่เดินทางกลับจากไปตีกอล์ฟกับ พ.ต.ท.บรรยิน แต่ทางญาติของผู้ตายไม่เชื่อว่าเป็นอุบัติเหตุ กระทั่งร้องเรียนให้กองปราบปรามรื้อคดี ก่อนจะมีความเห็นว่าเป็นเหตุฆาตกรรม อันมีสาเหตุมาจากการปลอมหลักฐานการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ มูลค่าเกือบ 300 ล้านบาท ให้กับน.ส.อุรชา และน.ส.กัญฐณา สาวคนสนิท พ.ต.ท.บรรยิน ซึ่งต่อมาผู้ต้องหาก็ได้มีการยักย้ายถ่ายเทเงินที่ได้จากการขายหุ้นดังกล่าว ก่อนนำไปซื้อทรัพย์สินต่างๆ   ด้าน พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีตรมช.กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงกรณีพนักงานสอบสวนกองปราบปราบ ออกหมายเรียกให้มารับทราบข้อกล่าวหาในคดีฟอกเงินว่า ไม่ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนตามที่ถูกออกหมายเรียกแต่อย่างใด เนื่องจากในวันพรุ่งนี้ ( 15 ส.ค.) ติดคดีที่ศาลพระโขนง หลังจากนี้ทางพนักงานสอบสวนก็คงจะออกหมายเรียกซ้ำให้เข้ามาพบเพื่อแจ้งข้อหา ซึ่งต้องพิจารณาอีกว่าในวันที่ออกหมายเรียก ตนมีคดีที่ศาลอีกหรือไม่ แต่ยืนยันไม่ได้คิดหลบหนี เพราะหากไม่เดินทางไปศาลตามกำหนดนัด ก็เกรงว่าอาจถูกเพิกถอนการประกันตัวในชั้นศาล   สำหรับที่ข้อกล่าวหาที่ถูกดำเนินคดีเพิ่มเติมครั้งนี้ ทราบว่าเป็นความผิดเกี่ยวกับการฟอกเงิน ต่อเนื่องจากคดีโอนหุ้น และคดีฆาตกรรมนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง ทั้งนี้ขอตั้งข้อสังเกตุว่า กรณีที่ ปปง. มาแจ้งข้อกล่าวหาในคดีฟอกเงิน เพราะก่อนหน้านี้ได้มีผู้ต้องหาโอนหุ้นบางคนไปแจ้งความดำเนินคดีกับเลขา ปปง.ในความผิดตามมาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่มิชอบ เนื่องจากได้ยึดทรัพย์ของผู้ต้องหาเกินเวลาที่กฎหมายกำหนด คือ 90 วัน แต่ยังไม่ดำเนินการใดๆให้ ต่อมาก็พบว่า ทาง ปปง.จึงเข้าแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหา 5 คนในข้อหาฟอกเงินดังกล่าว   มีรายงานข่าวด้วยว่า ผู้ต้องหาที่เหลืออีก 4 คนคือ นางสาวกัญฐณา ศิวาธนพล นางสาวอุรชา วชิรกุลฑล นางสาวศรีธรา พรหมมา มารดา และ นายชัยพรรณ น้องชายของนางสาวอุรชา  ได้ขอเลื่อนเข้าพบพนักงานสอบสวนด้วย