ตามที่ มีคําสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ที่ ๑๒/๒๕๖๑ ให้ พลตํารวจตรี รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร พ้นจากตําแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และให้ดํารงตําแหน่งผู้ตรวจราชการพิเศษประจําสํานักนายกรัฐมนตรี ลงวันที่ ๑๕ พฤษภาคม พุทธศักราช ๒๕๕๘ ลงนามโดย พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาตินั้น มีรายงายงานข่าวแจ้งว่า เหตุผลของคำสั่งย้ายดังกล่าว น่าจะมีสาเหตุมา ปัญหาขัดแย้งภายใน ปปง. โดยมีปัญหาความไม่ลงรอยกันในการทำงาน ระหว่างเลขาธิการปปง. กับพล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล ประธานกรรมการ ปปง. ซึ่งเป็น อดีตเลขาปปง. นอกจากนี้ ยังมีปัญหาที่ฝ่ายบริหาร ไม่พอใจการทำงาน ที่เห็นว่า อาจมีการละเว้น โดยฝ่ายบริหารต้องการให้ ‘ตรวจสอบโดยไม่มีข้อยกเว้น’ ทั้งนักการเมือง กลุ่มการเมือง พรรคการเมืองเป้า ที่ฝ่ายบริหารต้องการให้ตรวจสอบทั้งหมด แต่เมื่อดำเนินการไม่สอดคล้องกัน จึงเป็นที่มาของคำสั่งดังกล่าว รวมทั้ง มีปัญหาความล่าช้าในการตรวจสอบ กรณีกรมสรรพากร ยื่นให้ตรวจสอบบริษัททัวร์ศูนย์เหรียญ แต่เพียงแต่มีการอายัดทรัพย์เท่านั้น แต่ยังมีกรณีอื่นอีกด้วย สำหรับ พล.ต.ต. รมย์สิทธิ์ นั้น มีชื่อเล่นว่า ‘เปี๊ยก’ เป็นนักเรียนนายร้อยตำรวจรุ่นที่(นรต.) 37 รุ่นเดียวกับ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(รองผบ.ตร.) พื้นเพเป็นชาวชัยภูมิ เส้นทางชีวิตราชการเรียกว่าเป็นตำรวจมาตลอดชีวิต โลดแล่นเติบโตในสายอีสาน พื้นที่ตะวันออกเฉียงเหนือ จนได้เป็นผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิบ้านเกิด เป็นนายตำรวจคนสนิทของ ‘บิ๊กอู๋’ พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน อดีต ผบ.ตร.และเป็นหนึ่งใน คสช. เมื่อครั้งนั้งตำแหน่ง รองผบช. ภ 4 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิราหมณกุล ตอนที่นั่งเป็น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล “ผบช.น.” ได้ออกคำสั่งดึงตัวมาช่วยราชการที่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.)พร้อมกับ 5 นายพล ก่อนโยกขยับตำแหน่ง เป็น รองผู้บัญชาการสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ(ก.ตร.) กระทั่งโอนย้ายถอดเครื่องแบบสีกากี เป็น รองเลขาธิการ ปปง. การทำงานในปปง. ได้ตรวจสอบเส้นทางเงินกรณีเงินทอนวัด และสืบสวนเส้นทางการเงินเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ มีผลงานจนได้รับการสนับสนุนเป็น เลขาธิการปปง. ได้รับการคัดเลือกเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2561 แต่ได้นั่งตำแหน่งเต็มตัว เมื่อ 2 เดือนที่ผ่านมา เพียง 2เดือนก็ถูกคำสั่งย้ายฟ้าผ่าแบบไม่ทันตั้งตัว