ซึ่งต้องยอมรับความจริงว่า การจัดระเบียบคนในคุกหรือผู้ต้องขังไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะการจะคืนคนดีกลับสู่สังคมไทย ที่ผ่าน ๆมามักจะพบว่าผู้ต้องหาส่วนหนึ่งเมื่อพ้นโทษก็จะกลับมาทำผิดกฏหมายจนต้องกลับมาต้องโทษอีกครั้งเพราะไม่มีช่องทางในการทำกินหาเลี้ยงชีพ ปัญหาคนล้นคุกจึงไม่ใช่เรื่องใหม่แต่เป็นเรื่องเก่าที่หมักหมมกันมานาน แต่สุดท้ายทางออกของปัญหาก็ยังคงวนเวียนอยู่ในอ่าง ไม่มีทางออก

  “หน้าที่หลักของกระทรวงยุติธรรมคือต้องดูแลให้ผู้ต้องขังเหล่านี้กลับคืนสู่สังคม โดยไม่กลับมาทำผิดซ้ำซาก ที่ผ่านมาปัญหาของเรือนจำมีมากมาย แล้วเราก็รับนักโทษได้แค่ 200,000 คน แต่ปัจจุบันพบว่ามีนักโทษกว่า 500,000 คน เป็นปัญหาที่ทางทางกรมราชทัณฑ์ต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อแก้ปัญหาเหล่านี้” นั่นคือบทสะท้อนให้เห็นภาพที่ชัด ๆถึงปัญหาในขณะนี้ที่สังคมจะต้องช่วยกันหาทางออกให้ประเทศ

พล.อ.ไพบูลย์ กล่าวต่อว่าเมื่อเร็ว ๆ นี้มีการปล่อยตัวนักโทษออกไปกว่า 8,000 คน ทำให้เกิดความกังวลใจของประชาชนทั่วประเทศว่าจะมีปัญหาอาชญากรรมเพิ่มขึ้นอีกหรือไม่ นั่นคือประเด็นที่สังคมตั้งคำถามและค้างคาใจมาอย่างต่อเนื่องเพราะไม่แน่ใจว่าคนเหล่านี้กลับเนื้อกลับตัวเป็นคนดีจริงหรือไม่

“วันหนึ่งผมได้พบกับเพื่อนที่เรียนหลักสูตรครูสมาธิของหลวงพ่อวิริยังค์ สิริธโร แห่งวัดธรรมมงคล จึงได้มีความคิดริเริ่มที่จะนำเอาหลักสูตรของหลวงพ่อมาปรับใช้กับผู้ต้องขัง ซึ่งก่อนหน้านี้มีการพูดคุยถึงเรื่องนี้กันมานาน ผมมองว่าการพัฒนาผู้ต้องขังจำเป็นต้องพัฒนาจิตใจเป็นสิ่งสำคัญที่สุด และบุคคลากรของกรมราชทัณฑ์ไม่ได้สอนมาในเรื่องนี้จึงไมได้มีการนำหลักสูตรครูสมาธิไปใช้จริงจังกับผู้ต้องขังอย่างที่ผ่านมา”

 อย่างไรก็ตามรมว.ยุติธรรมยังได้กล่าวต่อว่า ด้วยกรมราชทัณฑ์มีจำนวนกว่า 143 แห่งจึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำให้เกิดผลสำเร็จได้ โชคดีที่ตนได้มีโอกาสเข้าพบหลวงพ่อวิริยังค์และฝากตัวเป็นศิษย์ของท่าน ซึ่งหลวงพ่อท่านมีความเมตตาและมีวิธีจัดการ วิธีสอนอบรมให้เป็นระบบมากขึ้น

ปี 2558 ที่ผ่านมามีการนำร่องจัดอบรมหลักสูตรครูสมาธิในกรมราชทัณฑ์ทั้ง 31 แห่งทั่วประเทศ มีนักโทษกว่า 18,000 คน ที่เข้าอบรม และหลวงพ่อสั่งยังได้รับสั่งให้ขยายวิทยากรไปให้ครบถ้วนทั้งหมด 143 แห่งทั่วประเทศในปีนี้  ผมได้ทราบมาว่าหลวงพ่อเพียรพยายามเข้าไปกรมราชทัฑณ์กว่า 15 ปีเพื่อแก้ปัญหา แต่เข้าไม่ได้ไม่ทราบเหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร หลวงพ่อเองปรารถนาอยากเข้าไปโปรดคนในเรือนจำ ไปฟูมฟักจิตใจของนักโทษ ผมจึงสานต่ออุดมคดิของหลวงพ่อให้เกิดผลสำเร็จ

ตอนท้ายของการกล่าวปาฐกถา พล.อ.ไพบูลย์ยังได้กล่าวทิ้งท้ายว่า ยอมรับว่าหลังจากจัดอบรมหลักสูตรครูสมาธิให้ต้องต้องขังพบว่าระดับจิตใจของผู้ต้องขังดีขึ้น ถือว่าการแก้ปัญหาเดินมาถูกทางแล้วซึ่งตนเองก็สงสัยว่าเมื่อก่อนทำไมเราไม่คิดจะทำกัน ทำไมถึงได้มองข้ามสิ่งเหล่านี้ไป ด้วยความเมตตาของพระเดชพระคุณหลวงพ่อจึงช่วยหนุนส่งต่อบุญให้กับผู้ต้องหา และตนตั้งใจไว้ว่าจะนำหลักสูตรนี้เข้าไปในเรือนจำและจะเข้าไปอยู่อย่างถาวรทั้ง 143 แห่งทั่วประเทศในเร็ว ๆนี้ 

นี่คือเรื่องราวดี ๆ ที่เกิดขึ้นจากงานมงคลวัฒนายุ ธัมมานุสติหลวงพ่อวิริยังค์ แปดรอบนักษัตรของพระเดชพระคุณ หลวงพ่อวิริยังค์ สิรินธโร แห่งวัดธรรมมงคล ที่ทำให้เราได้เห็นถึงสิ่งดี ๆที่เกิดขึ้นจากผลงานของรมว.ยุติธรรม ที่ชื่อ พล.อ.ไพบูลย์ คุ้มฉายา