จากคดีที่“เสี่ยอ้วน” หรือนายปัญญา ยิ่งดัง อายุ 39 ปีก่อคดีสะเทือนขวัญ กระหน่ำยิง น.ส.ปวีณา หรือปาย นาเมืองรักษ์ อายุ 20 ปี และ นายอนันตชัย หรือ ฟอส จริตรัมย์ อายุ 21 ปี เพื่อนสนิท เสียชีวิต แล้วหนีไปกบดานอยู่ที่กัมพูชา จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำสามารถจับกุมตัวและส่งกลับด่านชายแดนอรัญประเทศเมื่อค่ำของวันที่ 21 สิงหาคม ที่ผ่านมา และนำขึ้นกรุงเทพฯด้วยเฮลิคอปเตอร์เพื่อมาให้ ผบ.ตร.สอบปากคำในเบื้องต้น     พลตำรวจเอก จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้ให้สัมภาษณ์หลังการสอบปากคำเบื้องต้นว่า โดยสภาพร่างกายของเขาก็ดี ไม่มีการเรียกร้องขอพบแพทย์แต่อย่างใด ไม่เชื่อว่าเขาจะฆ่าตัวเอง เพราะพูดจารู้เรื่อง ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นก็จับเรียบร้อยแล้ว เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าไม่ว่าจะเป็นคนฆ่าหรือคนพาหลบหนีผิดทั้งนั้น ซึ่งทางไทยได้มีการประสานงานกับประเทศเพื่อนบ้านทั้งกระบวนการอยู่แล้ว   พล.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา กล่าวว่าเบื้องต้นผู้ต้องหาไม่รู้สึกผิดที่ฆ่า 2 ศพ ต่อหน้าพระพุทธรูป เพราะเห็นว่าเป็นเพียงหินแกะสลัก แต่พอมารู้ภายหลังว่าเป็นพระพุทธรูปก็กลัวต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์  สำหรับคดีนี้เขารับสารภาพ ส่วนรายละเอียดอยู่ในสำนวน อันที่จริงตอนที่เขาอยู่ที่กัมพูชาก็พอทราบความเคลื่อนไหวว่าถ้าไม่ตายก็ตัน     หลังจากนี้ เวลา 15.00 น. จะมีการนำตัว “เสี่ยอ้วน”ไปทำแผนประกอบการรับสารภาพ ซึ่งส่วนหนึ่ง “เสี่ยอ้วน”ก็มีความกังวลเรื่องการถูกรุมทำร้ายระหว่างทำแผนอยู่เช่นกัน   ขอขอบคุณภาพ   Police TV