เมื่อเวลา 15.00 น.วันนี้(23 ส.ค.61) พ.ต.อ.อาทร ชิ้นทอง ผกก.สภ.นาจอมเทียน อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พร้อมด้วยชุดสืบสวน นำสำนวน พร้อมนำตัวนายปัญญา ยิ่งดัง หรือเสี่ยอ้วน อายุ 39 ปี ออกจากห้องขัง เพื่อเดินทางไปยังศาลจังหวัดพัทยา เพื่อฝากขังเข้าเรือนจำพิเศษพัทยา ตามหมายจับศาลจังหวัดพัทยา ในข้อหาร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน ,ร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืน ,พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ คุ้มกันหนาแน่น ทั้งรถตำรวจนำขบวนและรถเจ้าหน้าที่ปิดท้ายรถขนผู้ต้องหา   ขณะที่นำตัว นายปัญญา ยิ่งดัง หรือ เสี่ยอ้วน อายุ 39 ปี เดินลงมาจากห้องขังเพื่อจะขึ้นรถขนผู้ต้องหาที่จอดรออยู่หน้า โรงพัก เสี่ยอ้วนได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่มารอทำข่าวว่า เสียใจครับ เสียใจในสิ่งที่เกิดขึ้น เงิน 7 ล้านมีการโอนจริงครับ หลักฐานอยู่ในสลิป อยู่ในเฟส อยู่ในอะไรหมดเลยครับ โอนให้พ่อน้องครับ และก็น้องปวีณา เขาชีจรรย์เป็นสิ่งศักสิทธิ์ ครับ ปืนขัด 3 นัด ยิงไม่ออก ก่อนจะขึ้นคุมตัวออกไปทันที โดยนำตัวไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพัทยา   ในขณะเดียวกันที่ว่ามีกระแสข่าวที่เสี่ยอ้วนจะฟ้องร้องครอบครัวของน้องสปายในเรื่องเงินนั้น เป็นเพียงการแนะนำของทนายความเท่านั้น   สำหรับประเด็นเรื่องของการโอนเงินให้น้องสปายไปเป็นจำนวนเงินถึง 7 ล้านบาทอย่างต่อเนื่อง ด้วยความรักที่ “เสี่ยอ้วน”มีต่อ “น้องสปาย” แต่ไม่ได้รับการสนองตอบ ในขณะเดียวกันก็เข้าใจผิดคิดว่าน้องสปายจะปันใจไปให้กับคนอื่น ซึ่งเป็นที่มาของความแค้นและความรักจนต้องถึงลงมือฆ่านั้น ขณะนี้กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียล โดยแบ่งออกเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มแรกยังให้คนเห็นใจกับน้องสปาย แต่อีกกลุ่มหนึ่งเริ่มหันมาให้ความเห็นใจกับเสี่ยอ้วนที่เหมือนกับว่าต้องเสียรู้ให้กับความรักในครั้งนี้