เมื่อเวลา 01.20 น. วันที่ 1 ก.ย. พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจท่องเที่ยว พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ควบคุมตัวนายอัศยา ชัยภา หรือ โก้ อายุ 33 ปี ผู้ต้องหาก่อเหตุใช้ไม้เบสบอลฆ่า น.ส.ธิติมา ตั้งวิบูลย์พาณิชย์ หรือ เชอรี่ อายุ 39 ปี ไฮโซนักธุรกิจสาว จนเสียชีวิต พร้อมน้องชาย มาที่ สน.โชคชัย เพื่อสอบปากคำ หลังจากถูกทางการกัมพูชาควบคุมตัว ก่อนประสานทางการไทยเข้าไปรับตัวมาดำเนินคดี โดย นายอัศยา ให้การรับสารภาพ ระบุว่า มูลเหตุนั้นเกิดจากเรื่องรถยนต์ ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นรถที่ตนซื้อเพื่อจะเอาไปให้พ่อกับแม่ใช้ เนื่องจากพ่อกับแม่ยังใช้รถจักรยานยนต์อยู่ แต่ผู้ตายยังคงระแวง กลัวว่าจะเอาไปให้ภรรยาเก่าใช้ รวมถึงกลัวเรื่องผู้หญิงอื่นด้วย ซึ่งในวันเกิดเหตุตนจะเอารถคันดังกล่าวไปให้พ่อกับแม่ ทำให้ผู้ตายไม่พอใจและมีปากเสียงกัน จากนั้นก็ได้ไปที่ห้องที่เกิดเหตุ ก่อนจะคุยเรื่องดังกล่าว กระทั่งทะเลาะกันอย่างรุนแรง ซึ่งตนถูกด่าถึงบุพการี และมีการกระชากกันไปมา ตนจึงใช้เบสบอลฟาดผู้ตายไป 3 ครั้ง จนนอนแน่นิ่ง พอตนได้สติจึงเข้าไปดูผู้ตาย และเห็นว่าอาการหนักคงจะไม่รอด ระหว่างนั้นตนคิดจะโดดตึกฆ่าตัวตาย แต่นึกถึงลูกและพ่อแม่ รวมทั้งเรื่องอื่นๆ ถ้าตายไปคงไม่จบ โดยระหว่างที่หลบหนีก็เอาบัตรเครดิตของผู้ตายไปรูดซื้อของใช้ กระทั่งมาถูกจับตัวได้ ซึ่งตนยอมรับและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น สำหรับเรื่องที่เกิดขึ้นไม่เกี่ยวกับเรื่องเงินแต่อย่างใด นายอัศยา ยืนยันว่า หลังเกิดเหตุได้บอกน้องชายว่า จะชวนไปเที่ยว โดยที่น้องชายไม่รู้ว่าตนเพิ่งไปทำอะไรมา ก่อนจะโทรคุยกับทางบ่อนที่ฝั่งกัมพูชา ให้พาข้ามไปโดยผ่าน ตม.ตามปกติ ซึ่งน้องเพิ่งมารู้ทีหลังว่าตนเพิ่งฆ่าคนตายมา เรื่องที่เกิดขึ้นน้องชายไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย ทั้งนี้ หลังเจ้าหน้าที่สอบปากคำผู้ต้องหาทั้งสองตลอดคืน และจะนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในช่วงเช้า ก่อนคุมตัวไปขออำนาจศาลอาญา รัชดาฯ ฝากขังต่อไป ในวันนี้ ก่อนเวลา 12.00 น มีรายงานว่า อีกหนึ่งหลักฐานสำคัญที่ตำรวจไทยและทางการกัมพูชามั่นใจว่า นายอัศยา หรือโก้ ชัยภา อายุ 33 ปี ยังกบดานอยู่ในกัมพูชาคือคลิปจากกล้องวงจรปิดที่ศูนย์การค้าแห่งหนึ่งในกรุงพนมเปญ ที่สามารถจับภาพนายโก้ พร้อมด้วย นายอนุวัฒน์ ชัยภา อายุ 32 ปี น้องชาย กำลังเดินช้อปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมราคาแพงแบบสบายใจ อาทิ นาฬิกา กระเป๋า โดยเป็นการสั่งซื้อทีละมากๆอย่างคนมีฐานะดี ไม่มีทีท่าหรือท่าทางของการเป็นผู้ต้องหาคดีฆ่าคนตายแม้แต่น้อย ซึ่งสินค้าจำนวนมากมายนี้ เจ้าตัวซื้อติดตัวไว้ใช้ยามจำเป็น เนื่องจากวางแผนไว้ว่าหากเงินหมด รวมทั้งถ้าโดนอายัดบัตรเครดิต ก็ยังมีทรัพย์สินราคาแพงไว้ขายสำหรับพยุงสภาพคล่องการใช้ชีวิตของตนเองกับน้องชาย.