“พุทธะอิสระ” ขึ้นศาลรับสารภาพทำร้ายร่างกายตำรวจช่วง กปปส.

by ThaiQuote, 12 กันยายน 2561

เมื่อเวลา 09.00 เศษวันที่ 12 กันยายน ที่ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดสอบคำให้การจำเลย คดีทำร้ายตำรวจสันติบาลในม็อบ กปปส.แจ้งวัฒนะ หมายเลขดำ อ.2498/2561ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีพิเศษ 1 เป็นโจท ยื่นฟ้อง นายสุวิทย์ ทองประเสริฐ อายุ 59 ปี  หรืออดีตพระพุทธอิสระ อดีตเจ้าอาวาสวัดอ้อน้อย  จ.นครปฐม และแกนนำ กปปส.เวทีแจ้งวัฒนะ เป็นจำเลย ในความผิดฐานร่วมกันหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังหรือกระทำด้วยการใดให้เจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่ฯ ให้รับอันตรายสาหัส, ร่วมกันตั้งแต่ 5 คนขึ้นไปข่มขืนใจให้ผู้อื่นกระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายฯ หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 309, 310 ประกอบมาตรา 83   การเดินทางมาในวันนี้ อดีตพระพุทธะอิสระ เดินทางมาด้วยรถโฟลค์ สีขาว เข้ามาจอดบริเวณด้านหลัง และระหว่างลงจากรถ ต้องให้ลูกศิษย์ จำนวน 2 คนช่วยพยุงลงมาก่อนนั่งรถเข็น และเข้าไปยังห้องพิจารณาคดี โดยไม่มีการให้สัมภาษณ์ใดๆ กับสื่อมวลชน   ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ นายธีรยุทธ สุวรรณเกษร ทนายความ เผยว่า อดีตพระพุทธะอิสระ มีอาการป่วยหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท และต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่ง หลังจากถูกปล่อยตัวชั่วคราว โดยแพทย์วินิจฉัยระบุว่าอาการป่วยหมอนรองกระดูกรุนแรง และต้องทำการรักษาและพักฟื้นในช่วงระยะเวลาหนึ่ง   ต่อมา ศาลออกนั่งบัลลังก์ พร้อมทั้งอ่านและอธิบายคำฟ้องให้จำเลยพร้อมทนายจำเลยฟังเข้าใจ พร้อมถามคำให้การจำเลยว่าจะรับสารภาพหรือปฏิเสธโดย นายสุวิทย์ ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา ศาลมีคำสั่งให้สำนักงานคุมประพฤติสืบเสาะประวัติและพฤติการณ์ของนายสุวิทย์ประกอบทำคำพิพากษา และนัดฟังคำพิพากษาในวันที่ 29 ตุลาคมนี้   สำหรับขั้นตอนการสืบเสาะก่อนมีคำพิพากษานั้น ทางสำนักงานคุมประพฤติจะทำการสืบเสาะว่าจำเลยที่ให้การรับสารภาพถึงประวัติการกระทำผิด พฤติการการณ์กระทำผิด อายุ อาชีพ นำมาเพื่อให้ศาลพิจารณาประกอบคำวินิจฉัยในการเขียนคำพิพากษาว่าจะมีบทลงโทษอย่างไรกับจำเลย ซึ่งกรณีการสืบเสาะจะมีด้วยกัน 2 แบบ คือคู่ความร้องขอ หรือผู้พิพากษาเห็นควรสืบเสาะเอง ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกรณีที่ศาลเห็นว่าควรมีการสืบเสาะก่อนมีคำพิพากษา เนื่องด้วยคดีของนายสุวิทย์ ไม่ได้มีการสืบพยานในชั้นศาลการที่จะรู้รายละเอียดในพฤติการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้นก็จะมีข้อเท็จจริงจากการคุมประพฤติไปสืบเสาะด้วย.