เรื่องลึกที่ ‘เชียงคาน’ รอรับ ครม.สัญจรบิ๊กตู่

by ThaiQuote, 13 กันยายน 2561

เชียงคาน เป็นอำเภอหนึ่งในจังหวัดเลย ตั้งอยู่ริมแม่น้ำโขง เคยเป็นราชธานีหรือเมืองหลวงของประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว หรือราชอาณาจักรลาวมาก่อน เมื่อประมาณปีพ.ศ. 1400 ครั้นถึงสมัย พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พวกจีนฮ่อได้ยกทัพมาตีเมืองเวียงจันทน์ เมืองหลวงพระบางและได้เข้าปล้นสดมภ์เมืองเชียงคานเดิมที่อยู่ฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขง ชาวเชียงคานเดิมจึงอพยพผู้คนไปอยู่เมืองเชียงคานใหม่ หรืออำเภอเชียงคานปัจจุบัน ด้วย เชียงคาน มีความเป็นมาอันยาวนาน จึงเป็นชุมชนที่ยังคงความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวมาได้ยาวนานกว่า 100 ปี มีความเงียบสงบเหมาะที่จะใช้เป็นสถานที่พักผ่อน ประกอบกับในหน้าหนาว เชียงคานจะมีสภาพอากาศที่เย็นสบาย เชียงคานจึงได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยว ที่คนนิยมเดินทางมาท่องเที่ยว เมื่อประมาณกว่า 10 ปีที่ผ่านมา เชียงคานได้กลายเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่แต่ละปีมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปนับแสนคน กลายเป็นแหลางธุรกิจทำเงินขนาดใหญ่ เป็นแหล่งผลประโยชน์ที่นักธุริจจากพื้นที่ต่างๆต้องการเข้าไปครอบครอง ชาวบ้านส่วนใหญ่ทำไร่ทำนา ไม่มีทักษะในเชิงการบริหารการท่องเที่ยว แต่มูลค่าของทรัพย์สินมีมูลค่าเพิ่มขึ้นทุกปี บ้านหลังหนึ่งจากราคาไม่กี่แสนบาท กลายเป็นหลักล้าน กลายเป็นหลายล้าน เงินขายบ้านหนึ่งหลังสามารถนำไปซื้อดินรอบนอกได้หลายไร่ ชาวบ้านส่วนใหญ่จึงขายบ้านในเมืองเชียงคาน ขายบ้านที่อยู่ติดริมฝั่งโขงให้กับนายทุนต่างถิ่น ที่ได้ดัดแปลงบ้านเป็นร้ายกาแฟ ร้านอาหาร ร้านขายสินค้าอย่างอื่นให้กับนักท่องเที่ยว เหมือนที่เคยเกิดขึ้นกับอัมพวา ที่นักลงทุนต่างถิ่นเข้าไปซื้อบ้าน แผงขายสินค้า หรือแม้แต่ตลาด 100 ปีที่สุพรรณบุรี ที่แม่ค้าดั้งเดิมหายไปให้กับทุนต่างถิ่นทีมีศักยภาพมากกว่า ชาวบ้านรายย่อยค่อยๆหายไปจากเชียงคาน ผู้ประกอบการรายหนึ่ง ให้ข้อมูลว่า ชาวบ้านดั้งเดิมชาวเชียงคานส่วนใหญขายบ้านให้นักลงทุนต่างถิ่นไปแล้ว ประมาณ 80% และอพยพไปอยู่รอบนอก บ้านเก่าแก่ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเปลี่ยนมือไปเป็นของของนายทุนต่างถิ่น กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว ที่ภาครัฐอัดงบลงไป เม็ดเงินจากนักท่องเที่ยวที่สะพัดที่เชียงคาน ส่วนใหญ่ตกอยู่กับนายทุนต่างถิ่น ถึงคนเชียงคานจริงๆน้อยมาก อัตลักษณ์แห่งเชียงคาน กลายเป็นสินค้าที่ทันสมัย เหมือนกันที่เกิดขึ้นกับปาย แม่ฮ่องสอน ประชุมครม.สัญจรที่เชียงคาน อาจจะมีการอนุมัติงบประมาณก่อสร้างสาธารณูปโภค อย่างรถไฟสายโรแมนติก เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว มีการก่อสร้างสะพานกระจกแบบจางเจี่ยเจี้ย เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว ที่เงินสาวนใหญ่ไม่ตกถึงมือคนเชียงคานอย่างแท้จริง เป็นข้อมูลให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา และคณะรัฐมนตรี ได้รับทราบเพื่อที่จะพิจารณาโครงการเพื่อคนเชียงคาน ที่จะมีส่วนหนึ่งกระจายถึงคนเชียงคานด้วย