ผู้สูงอายุควรฉีดวัคซีนป้องกันโรค กันไว้ดีกว่าเกิดโรค

by ThaiQuote, 23 กันยายน 2561

นายแพทย์ปานเนตร  ปางพุฒิพงศ์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า การฉีดวัคซีนป้องกันโรค เพื่อทำให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันที่จำเพาะต่อจุลินทรีย์ชนิดนั้นๆ และป้องกันไม่ให้ป่วยเป็นโรคเมื่อมีการสัมผัสโรค ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันพบว่าวัคซีนช่วยลดอัตราเสียชีวิตและพิการในเด็กแรกคลอด เด็กที่ได้รับวัคซีนจะมีภูมิคุ้มกันโรค แต่เมื่อเวลาผ่านไปเติบโตเป็นผู้ใหญ่การฉีดวัคซีนตั้งแต่ในวัยเด็กยังไม่เพียงพอในการป้องกันโรค จึงต้องมีการฉีดวัคซีนซ้ำ นอกจากนี้ผู้สูงอายุที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนในวัยเด็กและไม่เคยติดเชื้อมาก่อน จึงไม่มีภูมิต้านทานเพื่อป้องกันโรคจำเป็นต้องได้รับวัคซีน เนื่องจากปัจจุบันโรคต่างๆ สามารถป้องกันได้ด้วยการฉีดวัคซีน เช่น คอตีบ ไอกรน บาดทะยัก หัด อีสุกอีใส ฯลฯ   ดังนั้นการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อในผู้สูงอายุหรือผู้ที่มีโรคประจำตัวเรื้อรัง เพื่อลดการติดเชื้อหรือลดการเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลจึงมีความสำคัญ และมีความจำเป็นที่จะต้องฉีดวัคซีนป้องกันตามโปรแกรมของวัคซีนชนิดนั้นๆ ซึ่งต้องฉีดให้ครบและตรงตามที่กำหนด   นายแพทย์ประพันธ์  พงศ์คณิตานนท์  ผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวรเพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์  กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่ออายุมากขึ้นร่างกายจะมีความไวต่อเชื้อโรคเพิ่มขึ้น ทำให้เกิดโรคได้ง่ายและรุนแรง การฉีดวัคซีนเป็นการป้องกันเพื่อช่วยลดความรุนแรงของการเกิดโรค โดยแนวทางการให้วัคซีนในผู้สูงอายุที่มีอายุ 65 ปีขึ้นไป ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น เบาหวาน โรคหัวใจ ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง และผู้ที่มีโรคติดต่อระบบทางเดินหายใจ  ตามคำแนะนำการให้วัคซีนป้องกันโรคสำหรับผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ  โดยราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทยปี พ.ศ. 2557 กำหนดไว้ ได้แก่  
  1. วัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ ควรฉีดก่อนช่วงฤดูฝน ปีละ 1 ครั้ง
  2. วัคซีนป้องกันโรคปอดบวมแบบรุนแรง
  3. วัคซีนป้องกันโรคคอตีบ ไอกรน บาดทะยัก ควรฉีดเพื่อเป็นการกระตุ้น
  4. วัคซีนป้องกันโรคงูสวัด จะพบมากขึ้นตามอายุ โดยเฉพาะเมื่ออายุมากกว่า 50 ปี
  นอกจากวัคซีนทั้ง 4 กลุ่มแล้ว ยังมีวัคซีนป้องกันโรคตับอักเสบบีและโรคตับอักเสบเอในผู้สูงอายุที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อและยังไม่เคยได้รับวัคซีนมาก่อนเพื่อป้องกันการติดเชื้อที่ทำให้ตับอักเสบและอาจนำไปสู่โรคมะเร็งตับและตับแข็งได้