รัฐบาลผนึกกำลัง 5 หน่วยงาน MOU ช่วยโชห่วย

by ThaiQuote, 3 ตุลาคม 2561

นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังเป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการสนับสนุนโชห่วยชุมชน ระหว่างกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ธนาคารออมสิน และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ณ อาคารไปรษณีย์กลางบางรักว่า รัฐบาลได้จัดทำโครงการนี้ เพื่อให้ความช่วยเหลือร้านโชห่วยชุมชน ได้มีช่องทางในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคจากผู้ผลิตโดยตรง เพื่อลดต้นทุน ทำให้ได้สินค้าราคาถูกมาจำหน่ายให้กับประชาชน ซึ่งจะเป็นการจูงใจให้ประชาชนเข้ามาเลือกซื้อสินค้าในร้านโชห่วยเพิ่มมากขึ้น และทำให้ร้านโชห่วยมีรายได้มากขึ้น “โครงการนี้จะช่วยให้ร้านโชห่วยที่อยู่ในชุมชนต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเฉพาะร้านค้าที่อยู่ห่างไกลในชนบท จะมีโอกาสในการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคไปจำหน่ายในร้านค้าได้ในต้นทุนที่ต่ำลง เพราะเป็นการสั่งซื้อผ่านแพลตฟอร์มกลางที่ได้จัดทำขึ้น ซึ่งจะดีกว่าเดิมที่โชห่วยต้องไปซื้อสินค้าจากร้านยี่ปั๊ว ซาปั๊ว ร้านขายส่ง เพราะเหมือนเป็นการซื้อตรงกับผู้ผลิต โดยผู้ผลิตจะส่งสินค้ามาไว้ในคลังกลางของไปรษณีย์ เมื่อโชห่วยสั่งซื้อ ไปรษณีย์จะเป็นผู้นำไปจัดส่งให้ ทำให้ร้านโชห่วยได้สินค้าที่มีราคาถูกลง” นอกจากนี้ ยังเปิดโอกาสให้ผู้ผลิตสินค้าชุมชนนำสินค้าไปจำหน่ายผ่านแพลตฟอร์มดังกล่าว เพื่อให้ร้านโชห่วยสามารถเข้ามาเลือกซื้อสินค้าไปจำหน่ายได้ด้วย ซึ่งจะเป็นการช่วยให้สินค้าชุมชนมีช่องทางการจำหน่ายเพิ่มขึ้น และช่วยให้ร้านโชห่วยมีสินค้าที่จำหน่ายในร้านหลากหลายขึ้น ทั้งนี้ ในระยะแรกจะเริ่มนำร่องใน 3 จังหวัด คือ จังหวัดสมุทรปราการ ฉะเชิงเทรา และชลบุรี กำหนดเป้าหมายร้านโชห่วยเข้าร่วมโครงการอย่างน้อย 750 ร้านภายในเดือน ม.ค.2562 โดยตั้งเป้าให้แต่ละร้านมีกำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นไม่ต่ำกว่า 10% และคาดว่าจะขยายให้ครอบคลุมร้านโชห่วยในทุกจังหวัดให้ได้ประมาณ 4 หมื่นร้านภายใน 3 ปี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า การจัดทำโครงการนี้จะช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับร้านโชห่วย เพราะร้านโชห่วยจะมีต้นทุนในการซื้อสินค้าถูกลง จากการรวมคำสั่งซื้อ โดยแต่ละร้านแม้จะสั่งซื้อทีละไม่มาก แต่เมื่อรวมกันซื้อหลายๆ ร้าน ก็จะทำให้คำสั่งซื้อใหญ่ขึ้น และผู้ผลิตก็พร้อมที่จะจัดส่งสินค้าไปไว้ในคลังกลางของไปรษณีย์ ซึ่งเบื้องต้นกำหนดให้มีรายการสินค้าที่สั่งซื้อได้ประมาณ 100 รายการ และจะเพิ่มขึ้นในระยะต่อไป ส่วนผู้บริโภคจะได้ประโยชน์จากการซื้อสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพจากร้านโชห่วยได้ในราคาที่ถูกลง ช่วยลดภาระค่าครองชีพ และยังเป็นการช่วยสร้างความเข้มแข็งให้กับร้านโชห่วยด้วย นายบุณยฤทธิ์ กัลยาณมิตร ปลัดกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวจะมีไปรษณีย์เป็นผู้บริหารจัดการ โดยร้านโชห่วยจะสั่งซื้อสินค้าผ่านแอปฯ หรือแพลตฟอร์มที่กระทรวงดีอีอยู่ระหว่างการพัฒนา จากนั้นไปรษณีย์จะเป็นผู้รวบรวมคำสั่งซื้อส่งไปยังผู้ผลิตสินค้า (ซัพพลายเออร์) เพื่อให้จัดส่งสินค้ามายังคลังของไปรษณีย์ จากนั้นไปรษณีย์จะจัดส่งสินค้าไปยังร้านโชห่วยทั่วประเทศตามคำสั่งซื้อ โดยกระทรวงพาณิชย์จะประสานไปยังซัพพลายเออร์ให้ผลิตสินค้าป้อนโครงการในราคาถูก ทำให้ต้นทุนของร้านโชห่วยลดลง และขายสินค้าได้ในราคาถูกลง เป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค คาดว่าจะเริ่มดำเนินโครงการได้อย่างเป็นทางการในเร็วๆ นี้   ข่าวที่เกี่ยวข้อง https://www.thaiquote.org/content/43741 https://www.thaiquote.org/content/47857