กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กระทรวงแรงงาน ประกาศเตือนไปยังแรงงานนอกระบบ รวมถึงผู้ที่รับงานไปทำที่บ้าน และประชาชนทั่วไป หลังเกิดปัญหาการโฆษณาผ่านสื่อโซเชี่ยลมีเดียส์ลักษณะรับสมัครคนแพ็คสินค้า คัดแยกสินค้าประเภทสินค้ากิฟต์ช็อปโดยให้รับไปทำที่บ้าน ซึ่งผู้จ้างงานอ้างว่า ผู้รับจ้างจะต้องจ่ายค่ามัดจำอุปกรณ์ตามราคาสินค้า และเมื่อทำงานเสร็จสิ้นแล้วจะได้รับเงินค่ามัดจำคืนพร้อมค่าจ้าง แต่ผลทำให้เกิดมีผู้ถูกหลอกจำนวนมาก เพราะเมื่อโอนเงินหรือจ่ายเงินค่ามัดจำไปแล้ว ผู้ว่าจ้างได้หนีหาย หรือบางส่วนเมื่อทำงานเสร็จแล้วกลับไม่ได้รับค่าจ้างตอบแทน

ทั้งนี้ ผู้รับจ้างต้องระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่แอบแฝงมาในรูปแบบการจ้างงานโดยให้โอนมัดจำไปก่อน โดยให้ตั้งข้อสังเกตว่าหากให้มีการโอนเงินมัดจำไปก่อนอาจจะมีการหลอกลวง หรือให้ตรวจสอบผู้จ้างงาน มีการปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้รับงานไปทำที่บ้าน พ.ศ.2553 หรือไม่ เช่น จัดทำเอกสารเกี่ยวกับการรับงานไปทำที่บ้านมอบให้แก่ผู้รับงาน  แต่หากต้องการทราบว่าผู้จ้างงาน ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ สามารถสอบถามได้ที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 1 ถึง 10 สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด หรือโทรศัพท์สายด่วน 1506 กด 3

ส่วนผู้จ้างงานที่ฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครอง ผู้รับงานไปทำที่บ้าน พ.ศ.2553 จะมีโทษปรับตั้งแต่ 1 หมื่น - 2 แสนบาท หรือจำคุกตั้งแต่หนึ่งเดือนถึงหนึ่งปี หรือได้รับโทษทั้งจำทั้งปรับ

ทั้งนี้ ข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งประเทศไทย ระบุจำนวนแรงงานนอกระบบเมื่อปี 2560 พบว่ามีจำนวนถึง 20.8 ล้านคน หรือ 55% ของงผู้มีงานทำทั้งหมด โดยส่วนใหญ่แรงงานนอกระบบจะไม่มีการศึกษา หรือจบการศึกษาต่ำกว่าระดับประถมศึกษาสูงถึง 33% และกลุ่มแรงงานนอกระบบส่วนใหญ่อยู่ในช่วงอายุระหว่าง 25-59 ปี ที่มีถึง 15 ล้านคน