ถนนการเมืองของ "ฟิล์ม รัฐภูมิ"

by ThaiQuote, 3 ตุลาคม 2561

ไม่อาจปฏิเสธได้ว่า สปอร์ตไลท์ทางการเมืองต้องมาฉายแสงที่หนุ่มนักร้องดังผู้นี้ ที่แม้ระยะหลังชื่อเสียงจะซบเซา หรือการหายหน้าหายตาไปจากจอทีวี แต่จากนี้ สังคมน่าจะได้รู้จักเขามากขึ้นในบาทบาทใหม่บนถนนการเมือง ซึ่งแว่วว่า เจ้าตัวเองก็พร้อมที่จะลงสมัครเลือกตั้งส.ส.ที่จะถึงนี้ด้วยเช่นกัน ฟิล์ม เปิดใจหลังเปิดตัวกับพรรคพลังท้องถิ่นไท กับความหมายของคำว่างานการเมือง และดารานักแสดงอย่างตัวเขา จะมาสร้างประโยชน์อันใดให้กับประชาชนผ่านงานการเมือง ซึ่งฟิล์ม ให้คำตอบว่า จากการที่เป็นดารานักแสดง และตลอดทั้ง 15 ปีของวงการบันเทิงได้ลงพื้นที่พบปะกับประชาชนมากหน้าหลายตาในหลากหลายพื้นที่มาโดยตลอด และผลจากสิ่งที่เห็น ก็ได้คำตอบสำหรับตัวเองว่า ทุกพื้นที่ที่ได้ไปมีความเหลื่อมล้ำ มีความเจริญที่ไม่เท่าเทียมกัน และปัญหาดังกล่าวที่สะสมในใจมาโดยตลอด บวกกับจังหวะของชีวิตที่ได้มีโอกาสรับฟังนโยบายของพรรคพลังท้องถิ่นไท ที่พร้อมจะเปิดโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ได้เข้ามาบริหารและร่วมกันวางแนวทางการเมืองเพื่อช่วยเหลือประชาชน มันก็สามารถตอบโจทย์ตัวเองได้เป็นอย่างดี   "จุดมุ่งหมายของผมคือ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่หรือรุ่นเก่า ก็ไม่ควรจะมีข้อจำกัดในการร่วมกันทำงานเพื่อประเทศ พัฒนาให้เกิดความเท่าเทียม เกิดความเจริญอย่างทั่วถึง เราจะได้ไม่ต้องมาเห็นคนจนหรือคนที่ลำบากอีกต่อไป" ฟิล์ม รัฐภูมิ สะท้อนเป้าหมายของตัวเองผ่านบทบาทใหม่ของเจ้าตัว   แต่ทำไมต้องเป็นพรรคพลังท้องถิ่นไท   ฟิล์ม ขยายความอย่างตรงไปตรงมาว่า ที่ผ่านมาหลายพรรคการเมืองได้เชิญให้ไปฟังนโยบาย แต่ชื่นชอบกับนโยบายของพรรคพลังท้องถิ่นไทมากที่สุด เพราะมีแนวทางที่ชัดเจนว่าจะทำให้ท้องถิ่นแต่ละแห่งเกิดความเจริญ เกิดความสุขให้กับคนในพื้นที่ได้อย่างไร ซึ่งตรงกับใจที่ต้องการอย่างมาก ส่วนเรื่องที่ว่าจะตัดสินใจลงสมัครส.ส.หรือไม่นั้น ก็ต้องอยู่ที่ผู้ใหญ่ของพรรคจะมองเห็นเป็นอย่างไร แต่ก็พร้อมจะใช้ความรู้ความสามารถของคนรุ่นใหม่มาบริหารประเทศเช่นกัน   "คนอาจมองว่าศิลปิน ดารา มาเล่นการเมืองอาจได้เปรียบกว่าคนอื่น เพราะมีชื่อเสียงเป็นต้นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ผมไม่มองตรงนั้น ผมมองว่าการก้าวเข้ามาทำงานการเมืองเป็นเรื่องของการอาสาเพื่อที่จะช่วยกันบริหารประเทศ ซึ่งการช่วยเหลือผู้คนผมทำมาตลอดชีวิต ดังนั้น ผมเชื่อว่าทุกคนเท่าเทียมกันหมด แต่เรามาวัดกันที่นโยบายการทำงาน เพื่อสะท้อนสิ่งที่จะทำเพื่อประเทศชาติกันดีกว่า" รัฐภูมิ ยืนยันตัวตน   สำหรับประวัติของ ฟิล์ม รัฐภูมิ โตคงทรัพย์นั้น เจ้าตัวจบการศึกษาระดับปริญญาตรีจากวิทยาลัยเทคโนโลยีสยาม คณะศิลปศาสตร์ สาขาวิชานิเทศศาสตร์สื่อดิจิตอล ก้าวเข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการถูกวางตัวให้เป็นนักร้องบอยแบนด์ในชื่อวง  G-BOYZ สังกัดจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ แต่ไม่ได้รับการโปรโมทมากนัก ก่อนที่จะดังเป็นพลุแตกเมื่อย้ายสังกัดมาเป็นนักร้องเดี่ยวสังกัดค่ายอาร์เอส โดยมีผลงานเพลงถึง 6 อัลบั้ม และมีงานแสดงละครอีกมากมาย ทำให้ถูกจับตาว่าน่าจะเป็นได้ถึงดาวค้างฟ้าของวงการบันเทิง   ส่วนงานด้านสังคม ฟิล์ม รัฐภูมิยังได้รับโอกาสเป็นตัวแทน ในโครงการที่สำคัญต่างๆ อาทิ ได้รับคัดเลือกให้เป็น Brand Ambassador ของมูลนิธิที่อยู่อาศัย (Habitat For Humanity) Thailand โดยจะทำอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งปี 2008 ทั้งในและนอกประเทศ และเข้าร่วมโครงการ เรียนรู้ศิลปะทางการแสดง ที่พัฒนาการการร้องและเต้น ผ่านทางการทำ FILM: The Series หรือพรีเซ็นเตอร์ งดเหล้าเข้าพรรษา เป็นต้น   แต่แล้วก็มาประสบกับข่าวฮือฮาเมื่อปี 2553 เมื่อเจ้าตัวถูกกล่าวอ้างว่าทำ แอนนี่ บรู๊ค อดีตนักแสดงและนางแบบตั้งครรภ์ จนได้คลอดบุตรชายออกมาคนหนึ่ง โดยไม่รับผิดชอบใด ๆ ซึ่งทางฟิล์มได้แถลงข่าวยอมรับว่าเคยคบหากับแอนนี่จริง แต่ปฏิเสธที่จะรับเป็นลูก โดยยืนยันให้ทางแอนนี่ตรวจดีเอ็นเอเสียก่อน แต่ทางแอนนี่ไม่ยอม ซึ่งเรื่องนี้ได้กลายเป็นข่าวทางสังคมที่ฮือฮาอย่างมาก ท้ายที่สุด ฟิล์มได้ลาบวช ยุติการแสดง และเดินทางไปเรียนต่อที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งปัจจุบันสรุปได้แล้วว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่ลูกของฟิล์ม แต่ชื่อเสียงของฟิล์มก็เริ่มถดถอยลง   กระทั่งปี 2557 เกิดเป็นข่าวฮือฮาอีกครั้ง เมื่อเจ้าตัวถูกตำรวจเกาหลีใต้จับตัว เนื่องจากเล่น #ICEBUCKEKETCHALLENGE กลางถนน โดยเป็นการเทน้ำเย็นจัดราดตัวเพื่อโพสต์ลงสื่อออนไลน์ หลังมีคนแจ้งเหตุว่ามีชายมาตะโกนกลางถนนพร้อมกับถอดเสื้อ และจากเหตุการณ์นี้ทำให้ฟิล์ม ถูกปรับเป็นเงินราว 4,000 บาท   จากนั้น มีข่าวว่าฟิล์มได้ริเริ่มทำธุรกิจส่วนตัว และเริ่่มลดงานบันเทิงลงไป กระทั่งเมื่อปี 2560 เกิดข่าวคราวกับเจ้าตัวอีกครั้ง เมื่อ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้เข้าร้องเรียนต่อกองปราบปรามเพื่อให้ดำเนินคดีกับฟิล์ม เนื่องจากฟิล์มถูกกล่าวอ้างว่า ทำกิจการบริษัทโดยไม่ได้รับขออนุญาต