เมื่อวันที่ 7 ต.ค.61 ชุดเฉพาะกิจพญาเสือ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ได้รับรายงานว่า นายพนัชกร โพธิบัณฑิต หัวหน้าอุทยานแห่งชาติไทรโยค น.ส.เนตรนภา งามเนตร ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานฯ และเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค เข้าตรวจสอบ บริเวณหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติไทรโยค ที่ ทย.6 (เขาพูล) อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี หลังทราบว่ามีกลุ่มรถออฟโรดเข้าไปในพื้นที่อย่างมีพิรุธ จากรายงานพบว่ามีกลุ่มรถออฟโรดจำนวน 6 คัน รวมทั้งหมด 12 คัน จึงตรวจค้นทุกคันอย่างละเอียดปรากฏว่าคันที่ 5 ทะเบียน 2 ฒง 3555 กรุงเทพมหานคร มีนายอนุสรณ์ เรือนงาม อ้างเป็น อส.อำเภอด่านมะขามเตี้ย เป็นผู้ขับขี่ พบปืนไรเฟิลติดลำกล้องและอุปกรณ์เก็บเสียงพร้อมกระสุนปืนจำนวนหนึ่ง ปืนพก 2 กระบอก พร้อมเครื่องกระสุนและซากสัตว์ป่าคือ หมีขอ โดยขาถูกตัดแล้วจำนวน 4 ขา สอบสวนทราบว่า กลุ่มออฟโรดดังกล่าวนำทีมโดยนายวัชรชัย สมีรักษ์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 300 หมู่ที่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เป็นปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี และอีก 2 คน เป็น อส.อำเภอเดียวกัน ส่วนที่เหลือเป็นเพื่อนปลัดอำเภอนำรถมาร่วมล่าสัตว์ด้วย ทางด้านซากสัตว์ป่าที่ถูกจับในครั้งนี้ ทุกคนปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทราบแต่เพียงว่า อส.ออย ไปขอแบ่งซื้อมาจากพรรคพวกเท่านั้น   ด้าน นายอนุสรณ์ เรือนงาม หรือ ออย อส.อำเภอด่านมะขามเตี้ย กล่าวว่า เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาทุกคนได้เดินทางมาแก้บนที่ศาลเจ้าพ่อเขาพลู หลังจากแก้บนเสร็จ ก็ได้เดินทางไปที่สำนักสงฆ์เต่าดำ และได้พักค้างคืนที่นั่น เมื่อถึงช่วงเช้าวันนี้ (7 ต.ค.61) เมื่อตนทำบุญแล้วเสร็จ ก็ได้ขับรถออกมาข้างนอก ผ่านศาลเจ้าพ่อเขาพลู ตนได้เจอกับชาวบ้านที่ขับขี่รถจักรยานยนต์มาเพื่อขายของ โดยมีถุงวางอยู่ตะกร้าหน้ารถ เมื่อชาวบ้านเรียกตนจึงจอดรถลงไปดู ครั้งแรกตนเข้าใจว่าเป็นชาวบ้านที่เข้าป่าไปหาเห็ดมาขาย จากนั้นชาวบ้านคนดังกล่าวก็ได้เสนอขายให้กับตนในราคา 100 บาท ตนจึงซื้อมา เพื่อหวังว่าจะเอาไปทำยา ส่วนกลุ่มคณะรวมทั้งปลัดอำเภอที่มาด้วยกัน ก็ไม่มีใครรู้เรื่อง เพราะตนเป็นคนซื้อเพียงคนเดียว จากการสอบสวนเบื้องต้นทั้งหมดให้การปฏิเสธ จึงถูกนำตัวไปทำบันทึกการจับกุม ณ ที่ทำการอุทยานแห่งชาติไทรโยค อย่างไรก็ตาม ตอนแรกกลุ่มผู้ต้องหาไม่ยอมให้ตรวจค้นตัว โดยบอกว่าเป็นปลัดอำเภอและเจ้าหน้าที่อาสารักษาดินแดนและอ้างว่าไม่ได้มีส่วนร่วมในการล่าสัตว์ครั้งนี้ หลังลงบันทึกการจับกุมเสร็จได้นำตัวทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน สภ.ไทรโยค ดำเนินคดีในข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาตและข้อหาร่วมกันมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในความครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต นายจีระเกียรติ ภูมิสวัสดิ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ว่า เรื่องนี้ต้องตรวจสอบรายละเอียดสำนวนคดีกับทางพนักงานสอบสวนดำเนินคดีกี่ข้อหาอย่างไร ถ้าดูแล้วเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ก็ต้องให้ออกจากราชการไว้ก่อน ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย และถ้าผิดจริงก็ต้องลงโทษอย่างแน่นอน เพราะเป็นข้าราชการถ้ากระทำผิดไม่มีการช่วยเหลืออย่างเด็ดขาด ด้าน พ.ต.อ.ธานี สงวนจีน ผกก.สภ.ไทรโยค กล่าวว่า คดีนี้ไม่มีอะไรหนักใจ แม้ผู้ที่เกี่ยวข้องจะเป็นปลัดอำเภอ แต่ทุกอย่างก็ต้องขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ซึ่งคดีไม่มีอะไรซับซ้อน ผิดก็ว่าไปตามผิดไม่มีใครมากดดันแต่อย่างใด และไม่มีการช่วยเหลืออย่างเด็ดขาด ขณะเดียวกัน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ปฏิเสธที่จะตอบคำถามกรณีที่เจ้าหน้าที่ทำการจับกุม กลุ่มออฟโรด ที่อุทยานแห่งชาติไทรโยค บริเวณหนองเต่าดำเขาปลาน้อย ที่มีพฤติกรรมล่าสัตว์ในเขตพื้นที่อุทยานแห่งชาติ โดยพบของกลางเป็นซากหมีขอ พร้อมอาวุธปืนไรเฟิลมีอุปกรณ์เก็บเสียงและกระสุนจำนวนมาก โดยหนึ่งในผู้ต้องหาคือนายวัชรชัย สมีรักษ์ อายุ 41 ปี อยู่บ้านเลขที่ 300 หมู่ที่ 1 ต.ท่าขนุน อ.ทองผาภูมิ จ.กาญจนบุรี เป็นปลัดฝ่ายป้องกันอำเภอด่านมะขามเตี้ย จ.กาญจนบุรี โดยได้เดินเข้าไปยังห้องรับรองทันที ทางด้านฐานความผิดเบื้องต้นได้ทำการแจ้งข้อหาแล้ว จำนวน 7 ข้อหา ได้แก่ 1.ฐานร่วมกันเก็บหานำออก ทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายหรือเสื่อมสภาพ ทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆ 2.ฐานร่วมกันนำสัตว์ออกไป หรือทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์ 3.ฐานกันร่วมนำพาหนะเข้าออก  ขี่ยานพาหนะที่มิได้จัดไว้เพื่อการนั้น เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ 4.ฐานกันนำเครื่องมือล่าสัตว์ จับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไป เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่ 5.ฐานกันร่วมล่าสัตว์ป่า หรือพยายามล่าสัตว์ป่าสงวน หรือสัตว์ป่าคุ้มครอง เว้นแต่เป็นการกระทำที่ทางราชการได้รับการยกเว้น ตามมาตรา 26 6.ฐานร่วมกันร่วมมีซากสัตว์ป่าคุ้มครองไว้ในครอบครอง โดยมิได้รับอนุญาต ฐานเข้าไปดำเนินการใดๆ เพื่อหาผลประโยชน์ โดยมิได้รับอนุญาต จากพนักงานเจ้าหน้าที่ 7.ฐานครอบครองอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในราชการสงคราม และขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามบทกฎหมายที่เกี่ยวข้อง   ขอขอบคุณภาพจาก ทีมพญาเสือ