วันที่ 11 ต.ค.2561 นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกกลุ่มสามมิตร เปิดเผยว่า ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งที่ปรึกษานายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) คนที่ 2 แล้ว เนื่องจากจะทำงานด้านการเมืองอย่างเต็มตัว และเกรงว่าหากทำหน้าในตำแหน่งต่อไป จะมีคนไม่หวังดีโจมตีและกระทบไปถึงนายพีระศักดิ์ในประเด็นการเมือง ทั้งนี้ ได้พูดคุยกับนายพีระศํกดิ์แล้วให้ทราบถึงเหตุผลที่ต้องลาออกแล้ว ต้องขอขอบคุณนายพีระศักดิ์ที่ให้โอกาสมาทำหน้าที่ที่ปรึกษา เพราะได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์เกี่ยวกับงานทางด้านฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ ดังนั้น จะนำประสบการณ์เหล่านี้ไปใช้ในการทำงานกับกลุ่มสามมิตรและพรรคพลังประชารัฐที่กลุ่มสามมิตรจะไปสังกัดด้วย นายธนกร กล่าวว่า  สำหรับการเปิดตัวเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐของกลุ่มสามมิตรนั้น ขณะนี้ทุกอย่างยังไม่เรียบร้อย เนื่องจากผู้สมัครของกลุ่มสามมิตรมีเป็นจำนวนมาก จึงต้องทำโพลสำรวจเพื่อคัดเลือก คนที่มีประสบการณ์ มีความรู้ความสามารถ และใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่มากที่สุด เพราะหากมีการเปิดตัวผู้สมัครบางคนออกไปแล้ว แต่ภายหลังมีบุคคลสนใจมาร่วมงานกับกลุ่มสามมิตรอีกแล้วปรากฏว่ามีความใกล้ชิดกับประชาชนในพื้นที่มากกว่าจนทำให้พรรคที่กลุ่มสามมิตรไปสังกัดนั้นต้องเปลี่ยนตัวผู้สมัคร อาจจะทำให้คนที่ถูกเปลี่ยนตัวเสียกำลังใจได้ และเป็นสิ่งที่นายสมศักดิ์ เทพสุทิน แกนนำกลุ่มสามมิตรนั้นซีเรียส เพราะเกรงว่าอาจจะทำร้ายจิตใจ และเสียพรรคพวก ดังนั้นการคัดสรรต้องเป็นไปอย่างละเอียดจึงทำให้ล่าช้าไปบ้าง แต่คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในเดือนนี้ เบื้องต้นกำหนดไว้จำนวน 70 คน ซึ่งรวมถึงกลุ่มมัชฌิมา ของนายสมศักดิ์ เพราะกลุ่มนี้ไม่ว่าจะลงสมัครในนามพรรคไหนก็ได้รับชัยชนะ "กลุ่มสามมิตรยืนยันว่าจะเข้าร่วมกับพลังประชารัฐอย่างแน่นอน เพียงแต่ต้องใช้เวลาตรวจสอบความรอบคอบ เพราะเราจะต้องนำผู้สมัครที่มีความรู้ความสามารถใกล้ชิดประชาชน เพื่อนำไปเสริมความแข็งแกร่งให้พรรคพลังประชารัฐในการเลือกตั้งที่จะมาถึง สำหรับทิศทางของแกนนำกลุ่มสามมิตรนั้น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ ประกาศชัดเจนว่าจะไม่รับตำแหน่งทางการเมือง ส่วนนายสมศักดิ์ เทพสุทิน จะทำหน้าที่ฝ่ายบริหาร และนายอนุชา นาคาสัย จะลงสมัครส.ส.แบบแบ่งเขต ส่วนผมก็พร้อมจะทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายมา" โฆษกกลุ่มสามมิตร กล่าว นายธนกร กล่าวอีกว่า ในส่วนที่ว่าจะมีการสนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีอีกสมัยหรือไม่นั้น จะเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรคที่จะพิจารณา แต่ส่วนตัวก็ชื่นชอบการทำงานและความสามารถของพล.อ.ประยุุทธ์