สหภาพ’บินไทย’ วอนเร่งกู้ภาพลักษณ์ เรียกความเชื่อมั่น

by ThaiQuote, 22 ตุลาคม 2561

วันนี้ (22 ต.ค.2561) สำนักงานใหญ่การบินไทย นายสุเมธ ดำรงชัยธรรม กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ได้เรียกตัวแทนนักบินเที่ยวบิน TG 971 และนายสถานีซูริคเข้าพบ เพื่อแก้ปัญหาความขัดแย้ง หลังเกิดเหตุ มีการแชร์ข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงปัญหาแย่งที่นั่งระหว่างผู้โดยสารและนักบิน จนส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์การบินไทย และยืนยันว่าจะสอบสวนข้อขัดแย้งนี้ให้ได้ข้อสรุปภายใน 7 วัน ทั้งนี้นายดำรงค์ ไวยคณี ประธาน สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการบินไทย เปิดเผยถึงปัญหาดังกล่าวว่า ปัญหาความขัดแย้งยอมรับว่าส่งผลกระทบโดยตรงเกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์การบินไทยเป็นอย่างมาก และเมื่อผลสอบสวนเสร็จภายใน 7 วัน ทางสหภาพฯจะเข้าพบผู้บริหารเพื่อสอบถามแนวทางแก้ปัญหา และการกู้ภาพลักษณ์บริษัทฯให้เป็นรูปธรรมที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้น รวมถึงการที่ทางประธานกรรมการการบินไทยออกมาระบุว่าจะใช้กรณีดังกล่าวเป็นตัวอย่าง เพื่อผ่าตัดปรับโครงสร้างองค์กรครั้งใหญ่ ซึ่ง เห็นด้วยกับการปรับโครงสร้างองค์กร เนื่องจากการบินไทยเป็นองค์กรขนาดใหญ่ และมีหน่วยธุรกิจต่าง ๆ ซ้ำซ้อนการทำงานจำนวนมากเปรียบเสมือนคนหัวโตขาลีบจำเป็นต้องแก้ไข หรือยกเลิกธุรกิจซ้ำซ้อนออก เพื่อให้การทำงานคล่องตัวมากขึ้น แต่จะต้องไม่กระทบต่อสิทธิประโยชน์เดิมที่พนักงานจะได้รับ นายดำรงค์ กล่าวว่า ทางผู้บริหารมีแนวคิดที่จะปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ เนื่องจากมีขนาดใหญ่เทอะทะลำบาก แต่ยังไม่ได้คุยกันในรายละเอียด และยังไม่ชัดเจนว่ามีอะไรมาก ในมุมของสหภาพก็เห็นตรงกัน ส่วนเรื่องสวัสดิการนักบินนั้น สิทธิของพนักงานการบินไทยมีเหมือนกับองค์กรอื่น ทั้งภาคเอกชนและภาครัฐ และไม่ได้มากกว่า บางส่วนน้อยกว่า แต่คนทั่วไปจะมองเรื่องการใช้ตั๋วเครื่องบิน ซึ่งเป็นขวัญและกำลังใจพนักงานที่ทำงานในองค์กรนั้นให้จงรักภักดีกับองค์กร แต่ตั๋วเครื่องบินที่พนักงานการบินไทยได้รับ ไม่ใช่ว่าจะได้บินแน่นอน ต้องรอที่สะพานเทียบเครื่องบินว่าจะมีที่นั่งว่างหรือไม่ ถึงจะได้บิน ถ้าไม่ว่างก็อด ไม่ได้เดินทาง และยังต้องจ่ายค่าธรรมเนียม ค่าภาษีสนามบิน ไม่นับรวมตั๋วลดราคา 10-25% พนักงานเป็นผู้รับผิดชอบ เมื่อโดยรวมแล้วเราไม่ได้มากกว่าที่อื่น ที่สังคมทั่วไปมองว่าการบินไทยอลังการ แต่ที่จริงผมว่าอเน็จอนาถ ไปขอตั๋วขึ้นเครื่องบินการบินไทยเหมือนขอทาน ไปนั่งรอว่าเขาจะให้เราเมื่อไหร่ ส่วนความเห็นส่วนตัวปัญหาที่เกิดขึ้นยอมรับว่ากัปตันที่เดินทางกลับเที่ยวบินดังกล่าว เป็นกลุ่มกัปตันที่เดินทางกลับและไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่รับช่วงบินต่อ ดังนั้นนักบินควรให้ความสำคัญแก่ผู้โดยสาร ด้วยการสละที่นั่งให้ผู้โดยสาร โดยการให้สิทธิ์นักบินนั่งเฟิร์สคลาส ควรจะเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย กรณีที่นักบินต้องทำการบินรับช่วงต่อ ซึ่งมาตรฐานความปลอดภัยการบินทั่วโลก ระบุว่านักบินต้องพักผ่อนเพียงพอ เพื่อปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งเรื่องการสละที่นั่งให้ผู้โดยสารเคยมีผู้บริหารทำมาแล้วในอดีต “สมัยนายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ ดำรงตำแหน่งดีดีการบินไทย ปกติจะได้ที่นั่งระดับเฟิร์สคลาสหรือบิสซิเนสในฐานะผู้บริหารระดับสูง แต่มีความจำเป็นที่ต้องให้ที่นั่งแก่ผู้โดยสาร ซึ่งนายปิยสวัสดิ์ก็มานั่งชั้นประหยัด โดยยืนยันว่าสามารถเดินทางถึงที่หมายได้เหมือนกัน ดังนั้นผมเห็นว่าหากการบินไทยไม่มีผู้โดยสาร ก็ไม่มีเงินมาจ้างนักบินเช่นเดียวกัน” นายดำรงค์ กล่าว ขณะที่กัปตันสนอง มิ่งเจริญ นายกสมาคมนักบินไทย ปฏิเสธการให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ก่อนจะเดินขึ้นอาคารเพื่อเข้าร่วมพูดคุยกับกลุ่มนักบินที่นัดรวมตัวกัน