“ยุบพรรค”...บ่วงรัดคอ “ทักษิณ”

by ThaiQuote, 23 ตุลาคม 2561

ปรากฏการณ์ ทางการเมืองล่าสุดเมื่อ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ออกมาขานรับ ที่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ  ขอให้กกต.ตรวจสอบความเคลื่อนไหวของนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่อาจจะเข้าข่ายครอบงำพรรคเพื่อไทยหรือไม่นั้น ชัดเจนที่สุดว่า  กลไกของกับดักทางกฎหมาย ที่ผู้ร่างระดับปรมาจารย์ บรรจงวางไว้เพื่อจงใจสยบความเคลื่อนไหวของ “ทักษิณ” ทำงานทันที   “ข้อกฎหมายที่อาจนำไปสู่การยุบพรรคการเมืองตาม กฎหมายพรรคการเมือง มาตรา 28-29 ที่กำหนด ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอม หรือมิให้ผู้ที่ไม่ใช่สมาชิกพรรคกระทำการควบคุมครอบงำ ชี้นำกิจกรรมของพรรคในลักษณะที่ทำให้พรรค หรือ สมาชิก ขาดความอิสระไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม”   เมื่อดูหลักของกฎหมายในมาตรานี้  ชัดเจนว่า บรรดาพรรคการเมื่องอื่นๆทั่วไป ไม่น่าจะได้รับผลกระทบใดๆ เพราะ การดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองย่อมเป็นไปตามอุดมการณ์ของพรรคการเมืองนั้นๆ  โดยการบริหารการกำหนดนโยบายของพรรคการเมืองนั้นๆผ่านผู้บริหารพรรค ที่มีคณะกรรมการบริหารพรรค  มีหัวหน้าพรรคการเมืองเป็นผู้นำ ซึ่งการเสนอแนวทางใดๆ อาจจะเปิดให้สมาชิกในทุกระดับชั้น หรือ เฉพาะส่วนหัวเป็นผู้กำหนดแนวทาง แนวนโยบาย ก็ย่อมทำได้เพราะมีสถานะความเป็น สมาชิกของพรรคการเมืองนั้นๆ ไม่ใช่ คนอื่น..หรือคนนอก มากำหนด...ดังนั้นจะว่าไปแล้ว พรรคการเมืองอื่นๆ โอกาสที่จะได้รับผลกระทบจาก มาตรานี้มีน้อยมากกว่าน้อยเสียอีก   แต่ไม่ใช่กับบรรดา พรรคตระกูลเพื่อ...เพื่อไทย  เพื่อธรรม  เพื่อชาติ  ล่าสุดมีข่าวลือออกมาอีกว่า มีพรรค ไทยรักษาชาติ ขึ้นมาอีก ซึ่งจะกี่เพื่อก็ตามต้องยอมรับความเป็นจริง พรรคเหล่านี้อยู่ภายใต้การอาณัติของ คนแดนไกล ทักษิณ  ชินวัตรทั้งสิ้น  การวางกลยุทธทางการเมือง  การจะวางตัวหัวหน้าพรรคหรือแกนนำ ต่างต้องได้รับการเห็นชอบจากทักษิณเกือบทั้งสิ้น  ความปรากฎที่บรรดาแกนนำต่างๆต้องบินไปพบ “ทักษิณ” เพื่อตัดสินใจ เป็นที่ปรากฏในสื่อต่างๆมากมาย   นอกจากนี้ มีหลายครั้งเป็นที่เปิดเผยในสื่อต่างที่ทักษิณได้แสดงความเห็น แสดงความคิดทางการเมืองชัดเจน  ล่าสุดก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อต่างประเทศไว้เป็นหลักฐานมากมาย ว่า เขายังเป็นผู้ทรงอิทธิพลต่อการดำเนินการใดๆของพรรคการ เหล่านั้น  ซึ่งบรรดาแกนนำพรรคการเมือง ไม่ว่าเพื่อไทย จะพยายามออกมาปฏิเสธอย่างไรก็ตาม ว่า นั้นเป็นความเห็นของคนๆเดียว เป็นความเห็นส่วนตัวของทักษิณ ไม่เกี่ยวกับพรรคฯ เป็นเรื่องที่คนติดตามการเมืองฟังแล้วบอกได้คำเดียวว่า....รับฟังได้ยาก   ด้วยสถานภาพของ “ทักษิณ” ซึ่งเป็นผู้ต้องหาหลบหนีการดำเนินคดีจำนวนมากมายอยู่ในต่างประเทศ ซึ่ง บิ๊กป้อม พล.อ.ประวิตร ถึงกับบอกว่า คงต้องหนีจนตาย คงไม่สามารถเข้ามาดำรงความเป็นสมาชิกของพรรคการเมืองใดๆได้เลยนั้น  และเมื่อดูหลักกฎหมายที่ตราขึ้นมา เปิดกว้างให้อำนาจ กกต. ใช้อำนาจได้เต็มที่ และค่อนข้างกว้าง โดยเพียง กกต.มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่าพรรคการเมืองใดกระทำผิด ก็สามารถยื่นศาลรัฐธรรมนูญเพื่อสั่งยุบพรรคการเมืองนั้น เมื่อศาลรัฐธรรมนูญดำเนินการไต่สวนแล้ว มีหลักฐานอันควรเชื่อได้ว่า พรรคการเมืองกระทำผิด ให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคการเมือง และเพิกถอน สิทธิสมัครรับเลือกตั้งของคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองนั้น   ดังนั้น  ปรากฏการณ์ กระแสยุบพรรคเพื่อไทย จึงไม่ใช่สิ่งที่จะเกิดขึ้นเพียงครั้งคราว และ ไม่ว่าจะตั้งพรรคการเมืองขึ้นมารองรับอีกกี่พรรคการเมืองก็ตาม  ตราบที่ พรรคการเมืองเหล่านั้นไม่อาจสลัดหลุด จากเงาของ “ทักษิณ” ได้ โอกาสที่จะถูกยุบพรรคตามกฎหมายก็มีโอกาสเกิดขึ้นมาอีก ตราบที่ กฎหมายยังผูกปมรัดคอทักษิณไว้เช่นปัจจุบัน...   “ประภาคาร”