ผู้ป่วยโรคหัวใจ ออกกำลังกาย ช่วยกล้ามเนื้อสูบฉีดดี

by ThaiQuote, 27 ตุลาคม 2561

นายแพทย์ณัฐพงศ์ วงศิวิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์เปิดเผยว่า การออกกำลังกายช่วยให้กล้ามเนื้อหัวใจมีการสูบฉีดเลือดไปเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายมากขึ้น ช่วยเพิ่มการไหลเวียนของเลือดไปเลี้ยงหัวใจ สามารถลดการเกิดโรคหัวใจชนิดต่างๆ เช่น โรคลิ้นหัวใจรั่วหรือตีบ โรคหัวใจจากความดันโลหิตสูง โรคเส้นเลือดหัวใจตีบ ภาวะหัวใจล้มเหลว โรคความดันโลหิตสูง และยังทำให้ลดอัตราการเจ็บหน้าอกของผู้ป่วยโรคหัวใจ อีกด้วย   การออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอมีผลดีต่อสุขภาพ แม้แต่ผู้ที่เป็นโรคหัวใจก็สามารถออกกำลังกายได้ และที่สำคัญการออกกำลังกายสามารถลดความอ้วน ลดระดับคอเลสเตอรอล เบาหวาน เพิ่มความกระฉับกระเฉงนำไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและกระดูก ปรับปรุงรูปร่าง ช่วยให้หลับสบายและลดภาวะเครียด ทั้งนี้ควรออกกำลังกายเป็นประจำ โดยตั้งเป้าหมายระยะสั้นและระยะยาวในการ ออกกำลังกายร่วมกับเพื่อนๆ หรือครอบครัว   แพทย์หญิงวิพรรณ สังคหะพงศ์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์กล่าวเพิ่มเติมว่า การออกกำลังกายเพื่อสุขภาพของหัวใจนั้นสามารถทำได้ตามความเหมาะสมของวัยตนเอง ตามสภาพร่างกาย และสิ่งแวดล้อมที่ดี ในความแรงที่เพียงพอต่อการกระตุ้นการพัฒนาของร่างกายและหัวใจโดยไม่เสี่ยงอันตราย โดยอัตราการเต้นของหัวใจสูงสุดอยู่ที่ 60-80%และทำให้เป็นกิจวัตรประจำวัน นอกจากจะมีผลดีต่อหัวใจแล้ว การออกกำลังกายยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวม ทำให้ร่างกายและจิตใจเข้มแข็ง   ทั้งนี้การออกกำลังกายสามารถ แบ่งออกได้หลายชนิด เช่น การออกกำลังกายแบบแอโรบิกเป็นการเพิ่มความแข็งแรงของหัวใจ การยกน้ำหนัก ช่วยเพิ่มความแข็งแรงของกล้ามเนื้อ กายบริหารหรือโยคะเพิ่มความยืดหยุ่นของร่างกาย หากมีอายุน้อยกว่า 40 ปี  ไม่มีปัจจัยเสี่ยงหรือความผิดปกติ เช่น เหนื่อยง่าย แน่นหน้าอกหรือเป็นโรคหัวใจ สามารถออกกำลังกายแบบ ไม่หักโหมได้ทันที แต่หากมีความผิดปกติควรปรึกษาแพทย์ก่อนที่จะเริ่มออกกำลังกาย ซึ่งวิธีการออกกำลังกายที่เกิดประโยชน์ควรเริ่มด้วยการวอร์มร่างกายให้พร้อมประมาณ 5-10 นาที ตามด้วยออกกำลังกาย ตามความสามารถที่จะกระตุ้นให้หัวใจเต้นเร็วขึ้น ถึงระดับที่มีชีพจร 60-80%อย่างน้อย 20 นาที และชะลอ โดยการทำให้ช้าลง ใช้เวลา 5-10 นาที