ทูตพาณิชย์ดูไบชี้ช่องไทยชิงพื้นที่ “เวิลด์เอ็กซ์โป 2020”

by ThaiQuote, 1 พฤศจิกายน 2561

นายปณต บุณยะโหตระ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองดูไบ เผยว่า ขณะนี้ดูไบกำลังเตรียมการก่อสร้างพาวิลเลียนสำหรับใช้จัดงานเวิลด์ เอ็กซ์โป 2020 รวมถึงก่อสร้างโรงแรม อาคารที่พักอาศัย และระบบคมนาคมขนส่ง สำหรับคนที่จะเข้ามาเที่ยวชมงานประมาณ 25 ล้านคนภายใน 6 เดือน โดยมีมูลค่าประมาณ 3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ หรือเกือบ 1 ล้านล้านบาท ทำให้เป็นโอกาสสำหรับธุรกิจการก่อสร้างและธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับการก่อสร้าง สินค้าต่างๆ และบริการของไทย ทั้งวัสดุก่อสร้าง การออกแบบ การจัดสวน พรม สระว่ายน้ำ และสินค้าอาหาร เป็นต้น

“ตอนนี้ทางดูไบได้เปิดให้ทุกบริษัทจากทั่วทุกมุมโลก มาลงทะเบียนในเว็บไซต์ เพื่อเสนอขายสินค้าและบริการให้กับบริษัทที่เข้ามาทำการก่อสร้างพาวิลเลียน และการก่อสร้างอื่นๆ ใครมีสินค้าอะไรนำเสนอก็ให้ไปลงทะเบียนไว้ ซึ่งเปิดโอกาสให้กับทุกบริษัทจากทั่วโลก จึงถือโอกาสนี้ขอให้ผู้ประกอบการไทยที่ต้องการจะขายสินค้าให้รีบไปลงทะเบียน ถ้าสินค้าเป็นที่ต้องการ ก็จะได้รับการติดต่อ ถือเป็นโอกาสที่ไม่ควรมองข้าม” นายปณต กล่าว

นอกจากนี้ ยังได้ช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการสระว่ายน้ำของไทย เข้าไปเปิดตลาดทำสระว่ายน้ำในดูไบได้สำเร็จ และปัจจุบันกำลังหารือในรายละเอียดกับหุ้นส่วนในการดำเนินการ โดยสระว่ายน้ำของไทยมีจุดเด่นคือ ติดตั้งง่าย รื้อถอนได้ง่าย ทำให้มีความต้องการสูงมาก และยังมีพรม ที่ตลาดกำลังมีความต้องการ เพื่อรองรับการใช้ในสิ่งปลูกสร้างต่างๆ ที่กำลังจะเกิดขึ้น โดยสำนักงานฯ กำลังประสานเพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยในการเจาะตลาดอยู่

ส่วนธุรกิจบริการที่มีดูไบสนใจ เช่น ทันตกรรม โดยเฉพาะการทำฟันปลอม ที่ปัจจุบันไทยรับทำฟันปลอมให้กับทันตแพทย์ในยุโรปอยู่แล้ว โดยจะผลักดันให้เข้ามาลงทุนให้บริการในดูไบ ซึ่งตลาดมีการเติบโตสูงมาก และยังมีธุรกิจร้านอาหารไทย ที่ยังมีโอกาสขยายตัว เพราะอาหารไทยเป็นที่รู้จักและนิยมมากในตลาดตะวันออกกลาง ซึ่งสำนักงานฯ ยังคงจะเดินหน้าผลักดันการเปิดร้านอาหารไทยในดูไบ และตลาดตะวันออกกลางให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ทางด้านช่องทางในการขยายตลาดส่งออกสินค้าไทยเข้าสู่ตลาดตะวันออกกลางและประเทศในแถบแอฟริกา สำนักงานฯ มีคำแนะนำให้ผู้ส่งออกศึกษาใช้ประโยชน์จากท่าเรือ Jebel Ali ซึ่งเป็นท่าเรือที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง สามารถที่จะรองรับการขนส่งสินค้าได้ทั้งทางเรือและเชื่อมโยงกับทางอากาศ ซึ่งจะทำให้สินค้าไทยมีโอกาสเจาะเข้าสู่ประเทศที่ส่งออกไปได้ยากอย่างตลาดแอฟริกาทำได้ง่ายขึ้น

นอกจากนี้ ผอ.สำนักงานฯ แนะนำให้ผู้ประกอบการ SME หรือ Startup ของไทย รวมถึงนักศึกษา ใช้ประโยชน์จาก Dubai Design District (D3) ซึ่งเป็นแหล่งเรียนรู้ด้านนวัตกรรม การออกแบบ การดีไซน์ โดยการเช่าพื้นที่ตั้งสำนักงานก็ถูก และยังได้รับการสนับสนุนในด้านต่างๆ ทั้งการพาไปฝึกงานกับแบรนด์ชั้นนำ เช่น Burberry การคัดเลือกดีไซนเนอร์ไปดูงานลอนดอน แฟชั่นวีค และหากบริษัทไหนมีศักยภาพ ก็จะสนับสนุนให้ตั้งเป็นบริษัททำธุรกิจต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

พณ.เจาะบาห์เรน หวังเปิดประตูสู่ตะวันออกกลาง

“สนธิรัตน์” เดินหน้านำทัพบิ๊กเอกชน ลุยตลาดบาห์เรน