"Thai Mart" เอาต์เล็ตไทย แห่งแรกในตะวันออกกลาง

by ThaiQuote, 4 พฤศจิกายน 2561

เอสเอ็มอี การมาครั้งนี้เป็นการมาดูลู่ทางเพื่อขยายการค้าการลงทุนมายังภูมิภาคนี้ ซึ่งต้องบอกว่ามีรายได้และกำลังซื้อต่อหัวสูงมาก และหนึ่งในเป้าหมายที่สำคัญและเป็นโอกาสอันดีของ นักธุรกิจ SME ไทยคือ "Thai Mart"  เอาต์เล็ตจำหน่ายสินค้าไทยในบาห์เรน เป็นเอาต์เล็ตไทยแห่งแรกในตะวันออกกลาง เกิดขึ้นจากการบริษัท VEGA Intertrade and Exhibition VEGA คือบริษัทเอกชนไทยที่อยู่ในตะวันออกกลางมา 20 กว่าปี ได้มองเห็นโอกาสที่บาห์เรน ซึ่งเป็นจุดที่จะเป็นเกตเวย์เข้าซาอุดีอาระเบีย หรือแหล่งที่ชาวซาอุฯ จะเดินทางข้ามมาซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภค และมารับประทานอาหารในช่วงวันหยุด  เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า ในปีนี้ระดับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้นมาเป็น 70 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล และมีโอกาสจะปรับขึ้นเรื่อยๆ ทำให้กำลังซื้อในกลุ่มตะวันออกกลางปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะชาวซาอุฯ ที่แต่ละปีเดินทางเข้ามากว่า 10 ล้านคน  จึงเป็นโอกาสในการขยายการส่งออกสินค้าและบริการของไทย เอสเอ็มอี “Thai Mart”  อาคารแสดงสินค้าและบริการไทยแห่งใหม่  ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการตกแต่ง  สามารถรองรับร้านค้าได้มากกว่า 200 ร้าน ส่วนใหญ่เน้น SME ไทยที่เข้าไปลงทุนในบาห์เรน โดยในเฟสแรกจะคัดเลือกสินค้าจากไทยเข้าไปร่วมออกร้าน เน้นสินค้าอุปโภค-บริโภคที่มีเอกลักษณ์ความเป็นไทย  มีความแตกต่างจากสินค้าจีนใน Dragon Mart  เช่น น้ำมันกฤษณา แฟชั่นและเครื่องประดับ ผลิตภัณฑ์สปา รวมถึงร้านอาหารไทย ซึ่งคาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ในช่วงเมษายน 2562 ทั้งนี้ จุดเด่นสำคัญของ Thai Mart  คือ เป็นอาคารแสดงสินค้าไทย ซึ่งอยู่ในพื้นที่เดียวกับ Dragon Mart ศูนย์แสดงสินค้าจีนขนาดใหญ่ ที่มีสินค้าหลากหลายเหมือนย่านประตูน้ำเมืองไทย เป็นจุดเชื่อมโยงติดกับ Thai Mart  ซึ่งเมื่อแล้วเสร็จจะสามารถดึงดูดผู้บริโภคที่มาใช้บริการได้ในคราวเดียวกัน ที่น่ายินดีจากผลการเดินทางเยือนบาห์เรนของนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์  รมว.พาณิชย์ และคณะผู้บริหารกระทรวงพาณิชย์ ได้ใช้โอกาสการเยือนบาห์เรนระหว่างวันที่ 27-28 ต.ค. ที่ผ่านมา ช่วยเหลือเจรจากับรัฐบาลบาห์เรนขอให้สนับสนุนภาคเอกชนไทย  ซึ่งผลที่เกิดขึ้นชัดเจน คือ การผลักดันให้รัฐบาลบาห์เรนอนุมัติให้ภาคเอกชนไทยสามารถถือหุ้นได้ 100% ในโครงการ Thai Mart  ที่คณะรัฐมนตรีบาห์เรนได้ให้ความเห็นชอบไปแล้วเมื่อวันที่ 30 ต.ค. 2561 ที่ผ่านมา  แตกต่างจากการเปิดบริษัทเทรดดิงในบาห์เรน ที่จะต้องมีชาวบาห์เรนถือหุ้นไม่ต่ำกว่า 51% ตามข้อกำหนด เอสเอ็มอี ถือเป็นความสำเร็จที่ไม่เคยเกิดขึ้น หากไม่นับจีนที่เป็นผู้ลงทุนรายใหญ่ในบาห์เรนที่ได้สิทธิถือหุ้น 100% ในโครงการดรากอนซิตี ซึ่งผลที่เกิดขึ้นดังกล่าว จะทำให้บริหารจัดการได้ง่ายขึ้น และจะช่วยเปิดโอกาสให้สินค้าไทยเจาะเข้าสู่ตลาดบาห์เรนและตะวันออกกลางได้เพิ่มขึ้น ไม่เพียง “Thai Mart” ที่บาห์เรน กระทรวงพาณิชย์ยังมีแผนที่จะผลักดันให้ภาคเอกชนไทยไปเปิดเอาต์เล็ตในประเทศต่างๆ เพิ่มขึ้นด้วย  เนื่องจากเป็นนโยบายที่นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการช่วยเหลือและผลักดันภาคเอกชน เพราะเป็นการสร้างโอกาสในการขยายตลาดให้สินค้าไทยได้ดีอีกทางหนึ่ง https://www.youtube.com/watch?v=KwHB6EYVg6I&feature=youtu.be ข่าวที่เกี่ยวข้อง พณ.เจาะบาห์เรน หวังเปิดประตูสู่ตะวันออกกลาง  “สนธิรัตน์” เดินหน้านำทัพบิ๊กเอกชน ลุยตลาดบาห์เรน  ทูตพาณิชย์ดูไบชี้ช่องไทยชิงพื้นที่ “เวิลด์เอ็กซ์โป 2020”
Tag :