นายกฤษฎา บุญราช รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า จากที่ได้สั่งการให้กรมปศุสัตว์แก้ปัญหาราคาไข่ไก่ตกต่ำอย่างเร่งด่วน ทำให้สัปดาห์ที่ผ่านมารับซื้อไข่ไก่คละหน้าฟาร์มปรับสูงขึ้นจาก 2.30 บาท เป็น 2.50 บาท ล่าสุดกรมปศุสัตว์รายงานว่าจะเร่งปลดแม่ไก่ยืนกรงอายุไม่เกิน 72 สัปดาห์ 1 ล้านตัวภายในสิ้นเดือนนี้ ทำให้ตั้งแต่เดือนธันวาคมเป็นต้นไปไข่ไก่จะออกสู่ตลาดน้อยลงประมาณวันละ 1 ล้านฟอง ซึ่งทางสมาคมผู้ผลิต ผู้ค้า และส่งออกไข่ไก่ สมาคมผู้เลี้ยงไก่ไข่ภาคใต้ สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่แปดริ้ว จำกัด สหกรณ์ผู้เลี้ยงไก่ไข่ชลบุรี จำกัด ชมรมผู้เลี้ยงไก่ไข่เชียงใหม่ลำพูน บ.ซีพีเอฟ บ. เบทาโกร บ.แสงทอง บ.ไทยเอก บ.เกษมชัยฟาร์ม และหจก.ร่วมมิตรฟาร์ม มาประชุมร่วมกับกรมปศุสัตว์และกรมการค้าภายในมีมติร่วมกัน รวมทั้งจะเข้มงวดปลดพ่อแม่พันธุ์ที่อายุ 72 สัปดาห์ตามมติคณะกรรมการนโยบายไข่ไก่และผลิตภัณฑ์ (Egg Board) สำหรับมาตรการระยะยาวกำหนดแผนการเลี้ยงพ่อแม่พันธุ์ปี 2562 ไม่เกิน 500,000 ตัว สำหรับกรมการค้าภายในรับดำเนินการเก็บไข่เข้าห้องเย็น 60 ล้านฟอง โดยจะนำเสนอคณะกรรมการพิจารณาสนับสนุนงบประมาณเป็นสินเชื่อ 140 ล้านบาท เพิ่มส่งออกไข่ไก่อีก 60 ล้านฟอง ซึ่งเป็นการขายต่ำกว่าทุน รวมค่าใช้จ่าย 30 ล้านบาท โดยภาคเอกชนรับผิดชอบ 15 ล้านบาท และกรมการค้าภายในสนับสนุนค่าบริหารจัดการ 15 ล้านบาท รวมทั้งทำโครงการธงฟ้าราคาประหยัดขายไข่ไก่ 20 จังหวัด 10 ล้านฟอง ทั้งนี้ เพื่อจะลดปริมาณไข่ไก่ที่ตกค้างสะสมจากช่วงกินเจและปิดภาคเรียน นายกฤษฎา กล่าวเพิ่มเติมว่า มาตรการระยะสั้นและระยะยาวจะทำให้ราคาไข่ไก่ปรับสูงขึ้นอีก โดยมีเป้าหมายไม่ให้ต่ำกว่าต้นทุนที่สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) คำนวณไว้เฉลี่ยฟองละ 2.80 บาท แต่ผู้ประกอบการหลายรายที่บริหารจัดการดีสามารถลดต้นทุนการผลิตได้ โดยเฉลี่ยที่ฟองละ 2.40 – 2.50 บาท คาดว่าภายในไม่กี่วันนี้ราคาไข่ไก่ปรับตัวขึ้นอีก 10 สตางค์ ราคาไข่คละหน้าฟาร์มขายฟองละ 2.60 บาท   ข่าวที่เกี่ยวข้อง พาณิชย์เบิกงบกลาง 140 ล้าน แก้ปัญหาไข่ไก่ราคาตก  กรมปศุสัตว์เร่งส่งออกไข่ไก่แก้ราคาตกต่ำ