เป็นทางการ “มาดามเดียร์” โผซบ “พรรคพลังประชารัฐ”

by ThaiQuote, 16 พฤศจิกายน 2561

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เปิดเผยว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐยินดีต้อนรับบุคคลคุณภาพ ที่ตัดสินใจลงสู่การเมืองเพื่อเป็นความหวังของพี่น้องประชาชน ทั้งนางวทันยา วงษ์โอภาสี หรือ "มาดามเดียร์" อดีตผู้จัดการทีมฟุตบอลทีมชาติไทยชุดอายุ 23 ปี และ ผศ.ดร.ณพงศ์ นพเกตุ อดีต ผอ.นิด้าโพลล์ ที่ได้ตัดสินใจครั้งสำคัญทิ้งตำแหน่งที่มีอยู่ เพื่อเข้ามาทำงานช่วยสร้างพรรคพลังประชารัฐเพื่อความต้องการของพี่น้องประชาชนในประสบความสำเร็จ

สำหรับตำแหน่งหน้าที่ภายในพรรคของบุคคลทั้ง 2 นั้น พรรคมีกลไกที่จะพิจารณา แน่นอนว่าพรรคจะคัดสรรบุคคลคุณภ-พเพื่อเสนอเป็นทางเลือกให้กับพี่น้องประชาชนอย่างแน่นอน     

“ทั้งนี้ทั้ง 2 คน ไม่ได้มีเงื่อนไขว่าเข้ามาแล้วจะต้องมีตำแหน่งหรือไม่มีตำแหน่งในพรรค ต้องบอกว่าเราไม่ได้มีการตั้งพรรคแบบมีข้อต่อรอง โดยคนที่จะเข้าสู่พรรคหรือร่วมทำงานกับพรรคคือคนที่มีความตั้งใจจะร่วมกันสร้างพรรค”      

ด้าน นางวทันยา วงษ์โอภาสี ผู้สมัครพรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า ขณะนี้จะต้องขอหารือกับทางผู้ใหญ่ในพรรคถึงตำแหน่งที่เหมาะสม ที่จะช่วยขับเคลื่อนการทำงานของพรรค แน่นอนสิ่งสำคัญที่สุดที่ตัดสินใจเข้ามาในจุดนี้ คือการทำงานเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม 

“สำหรับเหตุผลที่ตัดสินใจเข้ามาร่วมงานกับพรรคประชารัฐ เนื่องจากแง่คิดที่ได้รับจากผู้ใหญ่หลายๆท่าน โดยที่ผ่านมาเราทำงานในฐานะสื่อ ซึ่งตนมีความฝันว่าอยากจะขับเคลื่อนสังคมด้วยกระบวนการผ่านการทำงานของสื่อ โดยผู้ใหญ่ได้ให้แง่คิดว่าที่ผ่านมาเราอาจทำงานในมุมมองผ่านการตั้งคำถาม แล้วเมื่อมีโอกาสทำไมถึงไม่ลุกขึ้นมาและลงมือทำด้วยตนเอง และนี่คือจุดเริ่มต้นที่ทำให้รู้สึกว่าถ้าเราอยากเห็นการเปลี่ยนแปลงจริงๆ คงจะต้องเริ่มที่ตัวเราลุกขึ้นมาแล้วเริ่มลงมือทำด้วยตัวเอง อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญคือ ผู้ใหญ่ภายในพรรคทั้ง คุณสนธิรัตน์ หรือ ดร.อุตตม และผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคหลายๆท่าน ไม่ได้มาจากนักการเมือง ซึ่งเราชื่นชมในผลงานหลายๆด้าน อย่างเช่น EEC ที่กำลังดำเนินการอยู่ หากประสบความสำเร็จก็จะเป็นโครงการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา ซึ่งตนมีความชื่นชม และเห็นว่าควรจะต้องถึงเวลาที่เราเสียสละ และลุกขึ้นมาทำงานด้วยตัวเองบ้าง”

ทั้งนี้ เส้นทางต่อไปในอนาคตหากจะต้องลงสมัครเป็นผู้สมัครผู้แทนราษฎรทั้งแบบเขตหรือปาร์ตี้ลิสต์ ก็จะต้องลาออกจากผู้บริหารองค์กรสื่อ ตามที่ระบุในกฎหมาย ซึ่งตนจะยุติบทบาทในส่วนนั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการทำงาน 

อย่างไรก็ตาม ขณะนี้แม้ตนจะเป็นผู้บริหารสื่อ แต่เมื่อมาเป็นสมาชิกพรรคแล้ว สื่อดังกล่าวก็ยังคงทำหน้าที่ต่อไป โดยมีอิสระของการทำงานที่ปราศจากการแทรกแซง ชี้นำ หรือครอบงำแต่อย่างใด

“พปชร.” เนื้อหอม อดีต ส.ส. อีสานแห่สมัครสมาชิก

3 รัฐมนตรี ตบเท้าประเดิมสมัครสมาชิก “พลังประชารัฐ” วันแรก