รัฐจัดใหญ่ ! ช่วยเหลือลูกจ้าง สาวโรงงาน และเอสเอ็มอี

by ThaiQuote, 19 พฤศจิกายน 2561

นายอุตตม สาวนายน รมว.อุตสาหกรรม เปิดเผยภายหลังหารือร่วมกับนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯ พร้อมด้วยนายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พาณิชย์ และผู้บริหารของ 3 แบงก์รัฐ ได้แก่ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.)  โดยนายสมคิด ได้สั่งการให้แต่ละหน่วยงานไปหามาตรการช่วยลดภาระหนี้ให้กับธุรกิจเอสเอ็มอีรายย่อยที่เป็นเจ้าของธุรกิจ และบรรดาแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรม ผู้สูงวัยทั้งระบบ รวมถึงบรรดาผู้ประกอบวิชาชีพต่างๆ เช่น ครู ว่าจะดำเนินการได้อย่างไร เพื่อให้คนเหล่านี้เมื่อล้มแล้วลุกได้และเดินต่อไปได้อย่างมั่นคง คาดว่าภายในสัปดาห์นี้จะสามารถกำหนดมาตรการเบื้องต้นได้ “การลดภาระหนี้เดิมให้เป็นการเปิดโอกาสให้กับคนเหล่านี้ สามารถเดินหน้าทำธุรกิจต่อไปได้ หรือทำงานอย่างอื่นเพิ่มเติม เพื่อให้มีรายได้เพียงพอในการดำรงชีวิตให้มีความสุข ไม่ได้หมายความว่าจะลดภาระหนี้หรือปลดหนี้สินให้ทั้งหมด เพียงแค่ลดภาระหนี้เดิมให้เท่านั้น มั่นใจว่าเมื่อรัฐบาลสามารถปลดล็อกเงื่อนไขหรือทำให้กลุ่มคนเหล่านี้ข้ามพ้นกับดักต่างๆ ก็จะทำให้มีกำลังใจทำมาหากินหรือประกอบกิจการได้สะดวกมากขึ้น” นายอุตตม กล่าวว่า มาตรการที่จะออกมาใหม่นี้จะไม่ครอบคลุมกลุ่มเกษตรกร เพราะมีมาตรการช่วยเหลือดูแลอยู่แล้ว โดยธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) มาตรการที่จะเกิดใหม่นี้เป็นการเข้าไปช่วยเหลือประชาชนกลุ่มใหม่ให้ครอบคลุมครบทุกกลุ่มและครบวงจรในทุกด้าน รวมทั้งปลดล็อกเงื่อนไขต่างๆ ที่เป็น ปัญหาอุปสรรคให้ผ่อนคลายไปด้วย  สำหรับธุรกิจขนาดเล็กหรือเอสเอ็มอีที่เคยให้ความช่วยเหลือมาก่อนหน้านี้อยู่แล้ว แต่บางรายจะมีหนี้เสีย แต่ยังประกอบอาชีพอยู่ ซึ่งได้เงินมาใช้เพียงพอเฉพาะหมุนเวียนเท่านั้น ไม่สามารถขยายธุรกิจเพื่อให้ดีขึ้นได้  ดังนั้นการให้เงินกู้เพิ่มเติม รวมทั้งส่งเสริมให้มีทักษะอย่างอื่นเข้าเสริม ก็น่าจะทำให้คนเหล่านี้มีโอกาสในการหารายได้ได้มากขึ้น นายอุตตม กล่าวว่า มาตรการที่จะออกมาในครั้งนี้ไม่ใช่ช่วยแค่เจ้าของธุรกิจรายเล็กเท่านั้น แต่ยังรวมถึงบรรดาลูกจ้าง หรือแรงงานในโรงงานและธุรกิจต่างๆ รวมถึงบรรดาคุณครูที่มีหนี้สินกันจำนวนมาก หากไปปลดหนี้สินให้บางส่วน เพื่อบรรเทาภาระหนี้ที่มีอยู่ ขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการเพิ่มทักษะให้มีความสามารถเพิ่มมากขึ้น เท่ากับเป็นการเพิ่มโอกาสให้แรงงานและคุณครูมีรายได้เพิ่มมากขึ้นด้วยเช่นกัน เพราะลำพังเพียงแค่เงินเดือนที่ได้รับอาจไม่เพียงพอ นอกจากนี้ จะเน้นการดูแลผู้สูงวัย ด้วยการหามาตรการที่เหมาะสม โดยเน้นหนักไปที่เรื่องของการดูแลสุขภาพ ทั้งคนสูงวัยที่เป็นผู้ป่วยปกติ ผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้สูงวัยที่อยู่ในชุมชน หรือผู้สูงวัยที่ไม่อยู่ในชุมชน เป็นต้น