จากกรณีต้นพระศรีมหาโพธิ์ขนาดใหญ่อายุ 60 ปี บริเวณจุดชมวิวด้านทิศตะวันออกด้านหลังป้ายแสดงประวัติที่มีพระนามาภิไธยย่อ ภปร.และ สก. บนเขาช่องกระจก หน้าศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ มีสภาพยืนต้นตาย จึงถูกเจ้าอาวาสวัดธรรมิการาม พระอารามหลวงตัดโค่นสภาพตัดรากถอนโคนเหลือแต่ตอเมื่อปลายเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ซึ่งต้นศรีมหาโพธิ์ดังกล่าวเป็นต้นที่ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลเดช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงประกอบพิธีบรรจุพระบรมสารีริกธาตุไว้ในสถูปเจดีย์และทรงปลูก เมื่อคราวเสด็จพระราชดำเนินขึ้นเขาช่องกระจก เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2501 ต่อมานายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ทำหนังสือขอพระราชทานอภัยโทษถึงสำนักพระราชวัง เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน 61 เจ้าหน้าที่สถานีวนวัฒนวิจัยประจวบคีรีขันธ์ หน่วยงานสังกัดกรมป่าไม้ ที่ถนนสวนสน-อ่าวน้อย เขตเทศบาลเมืองประจวบฯได้นำตอต้นพระศรีมหาโพธิ์ออกจากเรือนเพาะชำภายในโรงเรือนด้านหน้าศูนย์เรียนรู้เพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ตามแนวพระราชดำริ หลังจากที่ผ่านมาได้เคลื่อนย้ายตอจากบนเขาช่องกระจก มาประกอบพิธีบวงสรวงเพื่อทำการเพาะเลี้ยงภายในห้องปลอดเชื้อ นานเกือบ 3 เดือน รวมทั้งนำส่วนรากเพาะชำในกระถาง โดยมีความหวังว่าส่วนรากและตอจะแตกต้นใหม่ นางชนิษฐา จันทโชติ หัวหน้าสถานีวนวัฒวิจัย ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หลังจากนำตอต้นพระศรีมหาโพธิ์ ลงมาไว้ในโรงเรือนเพาะชำ ให้การดูแลใส่ปุ๋ย และฮอร์โมน พร้อมจัดเจ้าหน้าที่ดูแลตลอดเกือบ 3 เดือนที่ผ่านมา ยอมรับว่า ตอต้นพระศรีมหาโพธิ์ ไม่มีการพัฒนาแตกตาผลิใบแต่อย่างใด ถือว่าการฟื้นฟูไม่ประสบผลสำเร็จ จึงต้องนำ ตอพระศรีมหาโพธิ์ ออกจากโรงเรือนเพาะชำ ต่อมาทางเจ้าหน้าที่ได้นำส่วนตอและรากที่ไม่สามารถฟื้นฟูสภาพให้งอกต้นใหม่ได้ ออกมาตกแต่งพร้อมทายาฆ่าเชื้อกันแมลง แต่ยังไม่ทราบว่าจะได้รับคำสั่งให้นำตอไปเก็บไว้บริเวณใด ขณะที่ส่วนลำต้นของต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่ถูกตัดกองทิ้งบนเขาช่องกระจกถูกนำไปเก็บรักษาไว้ที่กองอาสารักษาดินแดน ถนนสวนสน-อ่าวน้อย ในส่วนของบริเวณต้นพระศรีมหาโพธิ์ บนเขาช่องกระจก จุดที่มีการตัดนั้น ทางเจ้าหน้าที่ขึ้นไปติดตามผล และรดน้ำบริเวณพื้นที่ดังกล่าว ก็ยังไม่พบมีการผลิตาแตกใบแต่อย่างใดในขณะนี้ ส่วนต้นโพธิ์ที่พบข้างเคียงขณะนี้พบว่าเริ่มเจริญเติบโต ความสูงประมาณ 12 ซม. แล้ว ซึ่งทางสถานีวนวัฒวิจัยประจวบคีรีขันธ์ และนายคงศักดิ์ มีแก้ว รักษาการในตำแหน่งผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านวิจัยและการจัดการป่าไม้ กรมป่าไม้ ได้สรุปและทำรายงานเสนอต่อผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ให้รับทราบว่า ตอต้นพระศรีพระมหาโพธิ์ต้นไม้ทรงปลูก ไม่สามารถฟื้นฟูให้แตกตา ผลิใบได้อีกแล้ว รวมทั้งส่วนรากต่างๆที่นำลงกระถางไว้ 4 กระถางด้วยเช่นกัน ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ระบุว่าศูนย์การเรียนรู้ฯมีแผนนำต้นโพธิ์ขนาดเล็กที่พบใกล้กับต้นเดิมบนเขาช่องกระจกไปทำการเพาะเลี้ยง แต่ต้องผ่านกระบวนการตรวจสอบรหัสดีเอ็นอีว่าตรงกับต้นเดิมหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมากรมป่าไม้ได้ส่งไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการในประเทศเกาหลีใต้ จากกระแสข่าวที่ออกมา ชาวประจวบคีรีขันธ์แสดงความเสียใจเป็นอย่างมาก และได้ออกมาเรียกร้องให้ฝ่ายบริหารของจังหวัดแสดงความรับผิดชอบต่อการตัดโค่นต้นไม้ที่มีความสำคัญด้านประวัติศาสตร์และเป็นศูนย์รวมใจของประชาชน