ปปส.ย้ำ กัญชา ยังเป็นยาเสพติดให้โทษ
by ThaiQuote, 25 พฤศจิกายน 2561
ความคืบหน้าปลดล็อคกัญชา ล่าสุด นายนิยม เติมศรีสุข เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (เลขาธิการ ป.ป.ส.) ชี้แจงแนวทางการดำเนินการภายหลังจากที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้มีมติเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2561 รับหลักการร่างพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่เสนอโดยนายสมชาย แสวงการ และคณะ เพื่อผ่อนปรนการใช้ประโยชน์จากกัญชาเพื่อการศึกษาวิจัยและประโยชน์ในทางการแพทย์ โดยสามารถขออนุญาตผลิต นำเข้าหรือส่งออก จำหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง รวมถึงการนำไปใช้ตามคำสั่งของแพทย์ เพื่อการบำบัดรักษาโรคหรือเพื่อการศึกษาวิจัย ซึ่งที่ประชุมได้ตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ขึ้น จำนวน 29 คน เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยได้กำหนดระยะเวลาการพิจารณาให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน นับแต่วันที่สภานิติบัญญัติแห่งชาติมีมติตั้งคณะกรรมาธิการฯ
สำหรับแนวทางการดำเนินการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว คณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ประกอบด้วย นายสมชาย แสวงการ ประธานกรรมาธิการ นายแพทย์ เจตน์ ศิรธรานนท์ และนายวัลลภ ตังคณานุรักษ์ รองประธานกรรมาธิการ พลเอก รังสาทย์ แช่มเชื้อ ลขานุการคณะกรรมาธิการ และผู้ช่วยศาสตราจารย์ เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ โฆษกคณะกรรมาธิการ ได้มีการประชุมนัดแรกขึ้นเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2561 ณ อาคารรัฐสภา 3 ซึ่งที่ประชุมได้กำหนดกรอบระยะเวลาการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว โดยจะมีการประชุมพิจารณาสัปดาห์ละ 2 วัน เพื่อให้การพิจารณาแล้วเสร็จภายกำหนด คือ วันที่ 21 มกราคม 2562
โดยสาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ได้แก่
- ยังคงกำหนดให้ “กัญชา” เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท 5 ซึ่งการใช้เสพเพื่อความบันเทิงหรือสันทนาการยังเป็นความผิดตามกฎหมาย
- ห้ามมิให้ผลิต นําเข้า หรือส่งออก เว้นแต่ได้รับใบอนุญาตจากผู้อนุญาต เฉพาะในกรณีจําเป็นเพื่อประโยชน์ของทางราชการ
- ผู้มีสิทธิขออนุญาต ได้แก่ กระทรวง ทบวง กรม องค์การบริหารส่วนท้องถิ่น กรุงเทพมหานคร สภากาชาดไทย หรือองค์การเภสัชกรรม ผู้ประกอบการขนส่งสาธารณะระหว่างประเทศ ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม เภสัชกรรม ทันตกรรม สัตวแพทย์ชั้นหนึ่ง แพทย์แผนไทยสาขาเวชกรรมไทยและแพทย์แผนไทยประยุกต์
- ห้ามจําหน่าย หรือมีไว้ในครอบครอง เว้นแต่ได้รับใบอนุญาต การมีไว้ในครอบครองตั้งแต่ 10 กิโลกรัมขึ้นไป ให้สันนิษฐานว่าเป็นการมีไว้ในครอบครองเพื่อจําหน่าย
- แพทย์ที่ได้รับใบอนุญาตสามารถสั่งให้ผู้ป่วยใช้เพื่อการศึกษาวิจัยและการบำบัดรักษาโรคได้ โดยไม่เป็นความผิด
- ผู้ป่วยที่แพทย์สั่งให้ใช้ สามารถมีไว้ในครอบครองได้ไม่เกินจํานวนที่จําเป็นสําหรับใช้รักษาโรคเฉพาะตัวตามที่แพทย์สั่งได้ โดยไม่เป็นความผิด
Tag :
กัญชา