นอกจากนี้การสูบบุหรี่ไฟฟ้าก็จะช่วยให้เลิกสูบบุหรี่ได้อีกด้วย แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่าใช้บุหรี่ชนิดนี้ได้อย่างถูกต้องตามหลักมากแค่ไหนนั่นเอง ดังนั้นก่อนตัดสินใจสูบบุหรี่ไฟฟ้า มาทำความเข้าใจกับบุหรี่ประเภทนี้ให้มากขึ้นก่อนดีกว่า   บุหรี่ไฟฟ้า คืออะไร? บุหรี่ไฟฟ้าเป็นยาสูบแบบใหม่ที่จะใช้หลักการระเหยของสารนิโคตินเหลวด้วยความร้อนจากไฟฟ้า ไม่ใช่การเผาไหม้เหมือนกับบุหรี่แบบทั่วไปและเนื่องจากไม่มีการเผาไหม้ใบยาสูบจึงทำให้ความรุนแรงอยู่ระดับที่ต่ำกว่าและไม่ค่อยส่งผลกระทบต่อคนรอบข้างมากนัก สำหรับส่วนประกอบของบุหรี่ไฟฟ้า ก็จะมีแบตเตอรี่ สารนิโคติน และสารอื่นๆ เช่น แอลกอฮอล์ โพพีลีนและสารให้กลิ่นรสชาติ เป็นต้น ซึ่งอยู่ในสัดส่วนที่ไม่ส่งผลต่อสุขภาพมากเหมือนบุหรี่ธรรมดานั่นเอง   บุหรี่ไฟฟ้าอันตรายน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดาจริงหรือ? จากข้อมูลข้างต้นก็พอสรุปได้ว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้ามีอันตรายน้อยกว่าการสูบบุหรี่ธรรมดาจริงเพราะสารนิโคตินที่ได้รับเข้าสู่ร่างกายนั้นไม่ได้ผ่านกระบวนการเผาไหม้จึงปราศจากสารเคมีที่เป็นอันตรายนั่นเอง แต่อย่างไรก็ไม่ได้หมายความว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะไม่เป็นอันตรายเพราะโดยปกตินิโคตินก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพอยู่แล้วแม้จะไม่มากนักก็ตาม นอกจากนี้หากอุปกรณ์ที่ใช้ในการสูบไม่ได้มาตรฐานหรือมีการผสมสารเสพติดอื่นๆ ลงไปในนิโคตินเหลวด้วย ก็จะทำให้เกิดอันตรายได้เช่นกัน   ข้อดีของบุหรี่ไฟฟ้า 1.ช่วยให้เลิกสูบบุหรี่ได้จริง แม้อาจจะติดการสูบบุหรี่ไฟฟ้าแทนแต่ก็มีอันตรายน้อยกว่า และด้วยความที่เป็นการสูบควันเช่นเดียวกับบุหรี่ธรรมดาจึงไม่ทำให้รู้สึกเหมือนหักดิบจนเกินไป เหมาะกับผู้ที่ต้องการเลิกบุหรี่ที่สุด 2.มีหลากหลายกลิ่นให้เลือก ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นกลิ่นหอม เช่น กลิ่นช็อกโกแลต กลิ่นคาราเมลและกลิ่นผลไม้ เป็นต้น จึงไม่ทำให้รบกวนคนรอบข้างเหมือนการสูบบุหรี่ธรรมดา 3.มีสารพิษน้อยกว่าบุหรี่ธรรมดา และเนื่องจากไม่ผ่านการเผาไหม้จึงทำให้ปลอดจากสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ และไม่เกิดปัญหาควันบุหรี่มือสองอีกด้วย 4.ลงทุนซื้ออุปกรณ์สูบบุหรี่แค่ครั้งเดียว จากนั้นแค่ซื้อน้ำยาขวดไม่กี่บาทเท่านั้น แต่! ก็ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ และรุ่นว่าน้ำยาขวดจะมีราคาเท่าใด อาจจะช่วยให้ประหยัดขึ้น หรือแพงขึ้นก็เป็นไปได้ทั้งสองทาง   ข้อเสียของบุหรี่ไฟฟ้า 1.ค่าใช้จ่ายเริ่มแรกสูงมาก โดยจะเป็นค่าอุปกรณ์ที่ใช้ในการสูบบุหรี่ไฟฟ้านั่นเอง ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ที่หลักพันนิดๆ จนถึงสามพันขึ้นอยู่กับการจัดชุดและคุณภาพของอุปกรณ์ด้วย แต่หากประเมินที่ความคุ้มค่าแล้ว ก็ต้องบอกเลยว่าคุ้มมาก เพราะซื้อเพียงครั้งเดียวเท่านั้น จากนั้นก็ซื้อแค่น้ำยาและหัวอะตอมเพียงไม่กี่บาท 2.เมื่อสูบบุหรี่ไฟฟ้าแรกๆ อาจมีอาการแสบคอบ้าง แต่ไม่ต้องกังวล เมื่อใช้ไปได้ประมาณ 5 วัน – 2 อาทิตย์ก็จะเกิดความเคยชินและสามารถสูบได้ตามปกติโดยไม่มีอาการแสบคอ 3.ด้วยความเคยชินกับการสูบบุหรี่แบบเดิมๆ เมื่อเปลี่ยนมาเป็นบุหรี่ไฟฟ้าอาจทำให้เกิดความรู้สึกแปลกๆ อยู่บ้าง ดังนั้นแรกๆ จึงอาจมีอาการอยากบุหรี่แบบเดิม ซึ่งต้องใช้ความอดทนพอสมควรจนกว่าจะเกิดความเคยชินกับการสูบบุหรี่แบบใหม่ 4.ต้องมีการบำรุงรักษาเป็นประจำ เพื่อให้อุปกรณ์สูบสามารถใช้งานได้อย่างยาวนานและคุ้มค่าโดยส่วนใหญ่จะนิยมถอดมาล้างทุกๆ 2-3 อาทิตย์ และเปลี่ยนกัวอะตอมทุก 1-2 เดือน   แม้ว่าบุหรี่ไฟฟ้าจะมีความปลอดภัยมากกว่าการสูบบุหรี่ทั่วไปก็จริง แต่ในขณะเดียวกันก็ส่งผลเสียต่อสุขภาพและอาจทำให้เสพติดได้ ดังนั้นสำหรับเยาวชนรุ่นใหม่ก็ไม่ควรลองที่จะสูบและผู้ที่ต้องการเปลี่ยนจากบุหรี่ทั่วไปมาสูบบุหรี่ไฟฟ้า ก็ควรสูบอย่างถูกหลัก คือไม่นำสารประกอบอื่นๆ ที่เป็นอันตรายมาผสมลงไปนั่นเอง อย่างไรก็ตามเพื่อความปลอดภัยและการมีสุขภาพที่ดีอย่างแท้จริงควรเลิกสูบบุหรี่ทุกชนิดจะดีที่สุด   ขอขอบคุณข้อมูลจาก Honestdocs.co แหล่งที่มาของบทความ https://www.honestdocs.co/e-cigarretes#section_1