“วิษณุ” เผย ป.ป.ช.จ่อยกเลิกยื่นทรัพย์สินบางตำแหน่ง ติดเงื่อนไขกฎหมาย

by ThaiQuote, 5 ธันวาคม 2561

5 ธ.ค. 61 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงความคืบหน้าการแก้ไขปัญหาประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เกี่ยวกับการยื่นแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินว่า ขณะนี้ยังไม่ตกผลึก เพราะ ป.ป.ช. ยังไม่ได้แจ้งมาว่าจะทำอย่างไร แต่ตอนนี้รู้ปัญหาแล้ว กำลังคิดว่าจะออกประกาศอย่างไร ซึ่งมีหลายทางออก โดยจะดูว่าทางไหนดีที่สุดและยืนอยู่บนหลักธรรมาภิบาล คือตำแหน่งที่สุ่มเสี่ยงจะต้องมีการยื่นบัญชีทรัพย์สิน แต่ทั้งนี้ต้องเข้าใจว่าแม้บางตำแหน่งจะไม่ต้องยื่น ก็ยังเป็นเจ้าหน้าที่รัฐ ซึ่ง ป.ป.ช. สามารถเข้าไปตรวจสอบได้อยู่ดี เช่น หากกรรมการสภามหาวิทยาลัยจะไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินแล้ว แต่การที่ ป.ป.ช.จะเข้าไปตรวจสอบการทุจริต สามารถเข้าไปตรวจสอบได้ทุกเวลา ดังนั้นต้องแยกให้ออก ปัญหาตอนนี้ที่กำลังเกิดคือ ป.ป.ช.จะดูว่าตำแหน่งใดที่สุ่มเสี่ยง มีโอกาสที่จะทำให้เกิดปัญหาได้ ผู้สื่อข่าวถามว่า อาจจะมีการยกเลิกบางตำแหน่งที่อยู่ในประกาศ ป.ป.ช. ให้ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินแล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้ ซึ่งเป็นข้อเสนอของ ป.ป.ช.เอง ไม่ได้เป็นการบังคับ มีการแบ่งตำแหน่งออกเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.ตำแหน่งที่ไม่ต้องไปยื่นอะไรทั้งสิ้น และไม่ควรให้ยื่น เพราะไม่ได้สุ่มเสี่ยงใด 2.กลุ่มที่ควรจะต้องให้ยื่น แต่ไม่ต้องเผยแพร่ต่อสาธารณะ ซึ่งส่วนใหญ่เท่าที่ทราบ จะกลัวเรื่องการเผยแพร่ เพราะวันนี้ก็มีหลายตำแหน่งที่ยื่น แต่ไม่ต้องเปิดเผยต่อสาธารณะ 3.กลุ่มที่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินและต้องเปิดเผยต่อสาธารณะ “ประกาศที่ออกมา ไม่ได้แบ่งเอาไว้แบบนี้ โดยการจะเลือกว่า ตำแหน่งใดอยู่กลุ่มใด ไม่ควรใช้สองมาตรฐาน แต่ควรใช้การพิจารณาอย่างมีเหตุผล อย่างองค์การมหาชนมี 40 แห่ง ซึ่งพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) องค์การมหาชน บัญญัติไว้ว่า ห้ามทำมาค้าขาย ป.ป.ช.จะต้องไปดู” รองนายกฯ กล่าว เมื่อถามการประกาศฉบับแก้ไข ว่าใกล้ออกมาแล้วหรือยัง นายวิษณุกล่าวว่า ป.ป.ช.แจ้งว่า ยังไม่เสร็จเรียบร้อย เนื่องจาก เมื่อขยายระยะเวลาออกไปจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2562 แล้ว จะยังมีเวลาที่จะดูเรื่องนี้ ดังนั้นจึงไม่ควรจะไปตื่นเต้นและรีบลาออก ส่วนประเด็น กรรมการสภามหาวิทยาลัยและกรรมการในองค์การมหาชนที่ลาออกไปแล้ว จะกลับมาดำรงตำแหน่งอีกได้หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ได้ แต่การกลับมาในบางตำแหน่งนั้นง่าย แต่บางตำแหน่งการกลับเข้ามานั้นยาก เช่น กรรมการสภามหาวิทยาลัย เพราะกฎหมายกำหนดว่า การจะเป็นกรรมการสภามหาวิทยาจะต้องตั้งคณะกรรมการไปสรรหา ซึ่งต้องใช้ระยะเวลา 2-3 เดือน เมื่อสรรหาเสร็จจะต้องนำขึ้นทูลเกล้าเพื่อโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง ดังนั้น รวมกันทั้งหมดแล้วใช้เวลานานหลายเดือน เมื่อถามว่า สุดท้าย หากมีการยกเลิกบางตำแหน่งที่มีปัญหาก่อนหน้านี้ ให้ไม่ต้องยื่นบัญชีทรัพย์สินแล้ว จะดูเหมือนว่า ถอยให้เพราะถูกกดดันหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า คงไม่ได้มองแบบนั้น แต่ ป.ป.ช.ต้องมีเหตุผลที่จะทำแบบนั้น และเรื่องนี้ ป.ป.ช.เป็นผู้คิด เป็นข้อเสนอของ ป.ป.ช. เอง และถ้ามีคนถามว่า ทำไม ป.ป.ช. ไม่คิดเช่นนี้ตั้งแต่แรก เขามีเวลาไม่มากหรอก กฎหมายบังคับให้เขาต้องทำแบบนั้น เขาจึงต้องทำ และผมคิดว่าเขารอบคอบ แต่มีข้อจำกัดทางกฎหมาย และมีความจำเป็น ในเวลานั้นที่ทุกอย่างจะต้องเป็นความลับ จะไปปรึกษาใครว่าตำแหน่งนั้นควรต้องยื่นหรือไม่ ไม่สามารถทำแบบนั้นได้ แต่วันนี้ พอประกาศออกมา มีการตื่นตูมกันทั้งบ้านทั้งเมือง ซึ่งคือผลตอบรับ ซึ่งสุดท้ายแล้วถ้าตำแหน่งใดจะต้องยื่นหรือไม่ยื่น ก็ต้องยืนบนหลักธรรมาภิบาล และกฎหมาย ส่วนเรื่องการร้องขอให้นายกรัฐมนตรีใช้มาตรา 44 เป็นไปไม่ได้แล้วใช่หรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)จะไม่มีวันทำอย่างนั้น ถ้าจะยกเลิก ป.ป.ช.จะเป็นฝ่ายยกเลิกเอง ขอย้ำว่า คสช.จะไม่ไปยกเลิกในสิ่งที่เขาออก เพราะนั่นคือการแทรกแซง แต่ตนไม่บอกว่าเขาจะทำอย่างไร ตรงนี้มันมีเงื่อนไขบางอย่างที่ ป.ป.ช.จะต้องไปคิด และถ้าติดปัญหาอย่างไรก็มาชี้แจงได้ สรุปคือ ต้องประกาศออกไปก่อน แต่ก่อนจะประกาศ ก็มีวิธีการอีกแบบหนึ่ง สุดท้าย เมื่อถามว่าถือเป็นบทเรียนในการออกกฎกติกาต่างๆ หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ตนยังเชื่อว่าเขาไม่ผิด และบางครั้งก็เป็นเรื่องของการตีความทางกฎหมาย คิดว่าบทเรียนมีได้ทุกวัน ทุกเรื่อง ไม่ใช่เป็นเรื่องประหลาดอะไร ข่าวอื่นที่น่าสนใจ ครม.ไฟเขียว ช็อปช่วยชาติ 3 สินค้า เริ่ม15 ธ.ค.61-16 ม.ค.62