นายแพทย์ณัฐพงศ์  วงศ์วิวัฒน์ รองอธิบดีกรมการแพทย์ เปิดเผยว่า เมื่อย่างเข้าสู่ช่วงปลายปีอากาศจะเริ่มเย็นลงและอาจส่งผลต่อสุขภาพของผู้สูงอายุ  ดังนั้น จึงควรดูแลตนเองเบื้องต้น โดยการรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้อบอุ่นอยู่เสมอ  สวมใส่เสื้อผ้าที่มีความหนาเพียงพอ ห่มผ้าให้ร่างกายอบอุ่น หลีกเลี่ยงการอยู่ในสถานที่ที่มีอากาศเย็น นอกจากนี้ ควรออกกำลังกายสม่ำเสมอ เคลื่อนไหวร่างกายบ่อยๆ ตลอดจนรับประทานอาหารร้อนๆ ให้ครบ 5 หมู่  ดื่มน้ำอุ่นวันละ 6 - 8 แก้ว และนอนหลับพักผ่อนประมาณวันละ 7 - 9 ชั่วโมง ทั้งนี้ ในกรณีที่ผู้สูงอายุต้องเดินทางไปพักผ่อนกับครอบครัวในช่วงที่มีอากาศหนาวเย็น ควรเตรียมความพร้อมของร่างกาย ยาประจำตัวที่ใช้ และยาที่จำเป็นให้พร้อมก่อนออกเดินทาง นายแพทย์สกานต์  บุนนาค  รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสถาบันเวชศาสตร์สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร                          เพื่อผู้สูงอายุ กรมการแพทย์  กล่าวเพิ่มเติมว่า สิ่งที่ผู้สูงอายุควรคำนึงในช่วงหน้าหนาว คือ 1. โรคระบบทางเดินหายใจ เช่น ไข้หวัดหรือไข้หวัดใหญ่ ทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรง เช่น ปอดอักเสบติดเชื้อ เป็นต้น วิธีป้องกันคือหลีกเลี่ยงในที่มีคนอยู่หนาแน่น ล้างมือบ่อยๆ และงดสูบบุหรี่  2. ปัญหาเกี่ยวกับผิวหนัง ได้แก่ ผิวแห้ง ผื่นผิวหนังอักเสบและคัน เนื่องจากผู้สูงอายุมีไขมันใต้ผิวหนังน้อยและต่อมไขมันทำงานลดลง  ทำให้ผิวหนังสูญเสียความชุ่มชื้น จึงไม่ควรอาบน้ำบ่อยเกินไป และควรทาโลชั่นหลังอาบน้ำ  3. อาการกำเริบของโรคในระบบไหลเวียนโลหิต เช่น โรคหลอดเลือดหัวใจตีบ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคความดันโลหิตสูง เป็นต้น ผู้สูงอายุจึงควรดูแลร่างกายให้อบอุ่น ไม่รับประทานอาหารที่มีรสเค็ม หวาน หรือมันมากเกินไป และออกกำลังกายสม่ำเสมอ  4. อาการปวดข้อ โดยเฉพาะผู้มีปัญหาข้อเรื้อรัง อากาศที่หนาวเย็นอาจจะกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ เช่น โรคเก๊าต์  ดังนั้นการรักษาความอบอุ่นให้แก่ร่างกายจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุด