พิพากษากลับ จำคุก 1 ปี "ธาริต" หมิ่น "สุเทพ" ไม่รอลงอาญา

by ThaiQuote, 14 ธันวาคม 2561

วันนี้ (14 ธ.ค. 61 ) ศาลฎีกานัดฟังคำสั่งคดีที่นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและอดีตเลขาธิการ คณะกรรมการประชาชนเพื่อการเปลี่ยนแปลงปฏิรูปประเทศไทยให้เป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์แบบอันมี พระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (กปปส.) ยื่นฟ้องนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จำเลย ในข้อหาหมิ่นประมาท กล่าวหา ก่อสร้าง 396 โรงพักร้าง ศาลฎีกา โดยศาลได้อ่านคำพิพากษาเสร็จสิ้นแล้ว มีคำสั่งลงโทษจำคุก นายธาริต เป็นเวลา 1 ปี ไม่รอลงอาญา ทั้งนี้ ศาลได้พิจารณาตรวจสอบพยานหลักฐานและพิจารณาตามคำร้องของนายสุเทพ วันนี้ตั้งแต่เช้า นายธาริต เดินทางมาพร้อมทนายความ ขอเปลี่ยนคำให้การเดิมจากปฏิเสธเป็นการรับสารภาพ และขอให้ศาลลงโทษสถานเบา พร้อมทั้งนำเงิน 1 แสนบาท มาวางที่ศาลอาญา เพื่อเยียวยาโจทก์ ขณะที่ ทนายฝ่ายโจทก์ ขอให้ศาลอ่านคำพิพากษาทันที คดีนี้ เกิดขึ้น ระหว่างวันที่ 21 ม.ค.-4 ก.พ.2556 นายธาริต ขณะดำรงตำแหน่งอธิบดีดีเอสไอ แถลงข่าวผ่านสื่อมวลชนกล่าวหาว่านายสุเทพ โจทก์ ขณะดำรงตำแหน่งรองนายกฯ เป็นผู้สั่งการไม่ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) ทำสัญญาก่อสร้างอาคารที่ทำการสถานีตำรวจ 396 แห่ง เป็นรายภาค ตามที่ สตช.เสนอ แต่กลับให้รวมสัญญาการจัดซื้อจัดจ้างเพียงรายเดียว ทำให้บริษัท พีซีซี ดิเวลล็อปเม้นท์ แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด เป็นผู้ชนะการประมูล จนเกิดปัญหาที่ไม่สามารถก่อสร้างได้เสร็จทันตามกำหนด ซึ่งล้วนเป็นเท็จ ทำให้โจทก์ได้รับความเสียหาย เสื่อมเสียชื่อเสียง ในการพิจารณาของ ศาลชั้นต้น มีคำพิพากษาวันที่ 26 มีนาคม 2558 ให้ยกฟ้อง เนื่องจาก เห็นว่า การแถลงข่าวของจำเลยเป็นการตรวจสอบโครงการก่อสร้างโรงพักและให้ความเห็นในทางกฎหมายในฐานะอธิบดีดีเอสไอ ไม่ได้มีการยืนยันข้อเท็จจริงว่า โจทก์ได้กระทำการทุจริต ซึ่งนายสุเทพได้ขออุธรณ์คดีต่อ ต่อมาวันที่ 3 พฤษภาคม 2559 ศาลอุทธรณ์ พิพากษายืนยกฟ้องโดยเห็นว่าพยานหลักฐานโจทก์ยังไม่มีน้ำหนักให้รับฟังเพียงพอได้ว่าการกระทำของจำเลยเป็นความผิดตามที่โจทก์ฟ้อง ทำนายสุเทพในฐานะโจทก์ ขออนุญาตฎีกาต่อ ทำให้ศาลนัดพิจารณาคดีนี้ในช่วงเช้านี้ ก่อนหน้าที่จะมีการพิจารณาคดีในวันนี้ นายธาริต ได้มอบหมายให้ทนายความแถลงขอโทษนายสุเทพ และได้ให้ทนายความนำเงินสด 1 แสนบาทมาวางที่ศาล เพื่อเป็นการเยียวยาต่อโจทก์ด้วย ขณะที่ นายสุเทพ ระบุว่า ไม่ใช่เรื่องที่จะไปให้อภัยและไม่ใช่เรื่องที่สังคมควรอภัย สังคมต้องไม่ให้มีคนอย่างนี้