โฆษกประชาธิปัตย์ตั้งโต๊ะชำแหละ”บิ๊กตู่” ชี้ 4 ปีเละทุกเรื่อง

by ThaiQuote, 17 ธันวาคม 2561

กรุงเทพมหานคร - นายธนา ชีรวินิจ โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ เปิดเผยว่า ขอต้อนรับพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีเข้าสู่สถานะทางการเมืองอย่างเต็มตัว อย่างไรก็ตาม ขอสะท้อนปัญหาการบริหารประเทศที่ผ่านมาของพล.อ.ประยุทธ์ ให้รับทราบด้วยเช่นกัน เพราะตลอดเวลาที่บริหารประเทศ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่สามารถแก้ไขปัญหา 3 เรื่องได้เลย คือ 1.การทุจริตคอร์รัปชั่น 2.ปัญหาการไร้ธรรมาภิบาล และ3.ปัญหาเศรษฐกิจ 

ทั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ไม่ได้แสดงท่าทีที่ชัดเจน ในการยึดมั่นในการปราบปรามการทุจริต ที่เห็นได้ชัดก็คือ กรณีที่สื่อมวลชนและภาคประชาชนกดดันให้มีการตรวจสอบการถือครองนาฬิกาหรูของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม แต่พล.อ.ประยุทธ์ กลับตอบคำถามโดยระบุว่า ขอให้ลดราวาศอกกันบ้าง นอกจากนี้ ยังพบว่าตัวเลขการทุจริตในรัฐบาลของพล.อ.ประยุทธ์สูงกว่ารัฐบาลที่ผ่านมาด้วยซ้ำ

ส่วนเรื่องธรรมาภิบาล รัฐบาลไม่ได้แสดงให้เห็นถึงหลักธรรมาภิบาลอย่างแท้จริง เพราะ 4 รมว.ในรัฐบาลไปร่วมทำกิจกรรมทางการเมืองกับพรรคที่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์เป็นนายกฯ ได้อาศัยช่วงเวลาก่อนปลดล็อกพรรคการเมืองลงพื้นที่เอาเปรียบพรรคอื่น อีกทั้ง ปัญหาที่หนักที่สุดซึ่งรัฐบาลแก้ไขไม่ได้เลย คือ เรื่องเศรษฐกิจ เพราะตั้งแต่บริหารประเทศตั้งแต่ปี 2557 ราคาพืชผลทางการเกษตรทุกชนิดตกต่ำ โดยไม่มีมาตรการที่จะแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน ทำได้เพียงแค่ประคับประคองให้ผ่านพ้นไปในช่วงเวลาหนึ่งๆ เท่านั้น

นอกจากนี้ สิ่งพิสูจน์ได้เห็นชัดว่ารัฐบาลชุดนี้ ไม่ได้มีความสามารถในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจ เพราะปัญหาหนี้ครัวเรือนก่อนที่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะเข้ามานั้น อยู่ที่ 10.2 ล้านล้านบาทแต่ 4 ปีครึ่งที่ผ่านมา หนี้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นเป็น 12.34 ล้านล้านบาท  เพิ่มขึ้น 2.2 ล้านล้านบาท เป็นการยืนยันให้เห็นชัดเจนว่า รัฐบาลนี้ล้มเหลวโดยสิ้นเชิงต่อการแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน

"สิ่งที่รมว.วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) กล่าวว่ารัฐบาลจำเป็นต้องช่วยเหลือสวัสดิการของคนจนเนื่องจากว่า คนจนจะตายอยู่แล้ว แสดงให้เห็นชัดเจนเลยว่า รัฐบาลนี้ไม่สามารถจะแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างเป็นรูปธรรมกับทำให้เศรษฐกิจของชาติ ตกต่ำอย่างที่สุด ประชาชนอดอยากปากแห้ง" นายธนา กล่าว

รองโฆษกปชป.สงสัย รบ.ซ่อนอะไร ถึงไม่ให้ต่างชาติส่องเลือกตั้ง

น.ส.ศิริภา อินทรวิเชียร รองโฆษกประชาธิปัตย์ ฝ่ายต่างประเทศ กล่าวว่า รัฐบาลควรเปิดให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์เลือกตั้งของประเทศไทยเพราะขนาดประเทศเพื่อนบ้านอย่าง กัมพูชา ยังเปิดโอกาสให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์ และไม่มีประเทศไหนที่เขาเป็นประชาธิปไตยแล้วมาสกัดกั้นให้การสังเกตการณ์ขององค์กรต่างชาติ เว้นเสียแต่ประเทศซีเรีย และ ลิเบีย ที่สถานการณ์เฉพาะการเท่านั้น ทั้งนี้ การที่รัฐบาลไม่ต้องการให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์มีอะไรซ่อนไว้ใต้พรมหรือไม่ ถึงไม่อยากให้ต่างชาติเข้ามา ดังนั้นถ้ารัฐบาลบริสุทธิ์ใจก็ควรเปิดกว้างให้องค์กรระหว่างประเทศเข้ามาสังเกตการณ์การเลือกตั้งเพื่อจะทำให้การเลือกตั้งในครั้งนี้บริสุทธิ์ยุติธรรมและเป็นการยอมรับในเวทีโลก

ขณะที่ นายเชาว์ มีขวด รองโฆษกประชาธิปัตย์ ฝ่ายกฎหมายและมวลชนสัมพันธ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีการใช้วิธีการได้เปรียบของพรรครัฐบาลกับพรรคการเมืองบางพรรคที่ใกล้ชิดกับรัฐบาล โดยอาศัยโอกาสที่คนในรัฐบาล คนในพรรคจัดทำโครงการที่คล้ายคลึงกัน เช่นแจกบัตรคนจน โดย รัฐบาลให้คนในพรรคการเมืองดังกล่าวไปช่วยแกอย่างโจ๋งครึ่มในต่างจังหวัด ผ่านช่องทางของผู้นำชุมชน มีรวบรวมบัตรประชาชนเพื่อล่ารายชื่อ กดดันให้เลือกพรรคการเมืองบางพรรคเพื่อให้ได้ตามเป้าประสงค์ และผลประโยชน์บางประการ ตนได้ข้อมูลมาสดๆร้อน คือบางพรรคอาศัยเอาทรัพย์สินราชการไปแจกจ่ายให้ผู้นำชุมชนผ่านหัวคะแนน เช่น พื้นที่กทม. เรื่องของถังขยะของกทม. หลายปีที่ผ่านมา กทม.อ้างส่าไม่มีงบจัดซื้อ ร้องขอไปไม่มี แต่อาศัยช่วงใกล้เลือกตั้ง เอาถังขยะไปแจกโดยผ่านตัวแทนผู้สมัครบางพรรค แบบนี้ถือว่ามีการซื้อเสียงล่วงหน้า เป็นการกระทำชัดเจน เพราะผู้สมัครบางพรรคอาศัยช่องทางมีรัฐรู้เห็นเป็นใจ ทั้งหมด

“พรรคปชป.กำลังรวบรวมข้อมูลเพื่อนำเสนอต่อหน่วยงานเกี่ยวข้อง เช่น กกต.มีหน้าที่โดยตรง และขอเรียกร้องให้กกต.โปรดมาดูแลเรื่องนี้ แม้จะอ้างว่าไม่มีพ.ร.ฎ.ว่าด้วยการเลือกตั้ง แต่เป็นหน้าที่ในการที่จะทำและบริหารจัดการให้ยุต้ธรรมตามระบบประชาธิปไตยเพื่อให้นานาชาติยอมรับ” นายเชาว์ กล่าว

********

https://www.youtube.com/watch?v=IITQZcfrtWA&feature=youtu.be