อนาคตใหม่ลุย "ลับแล" หวังปลดหนี้เกษตรกร

by ThaiQuote, 17 ธันวาคม 2561

อุตรดิตถ์ - คณะกรรมการบริหารพรรคอนาคตใหม่ ประกอบด้วย น.ส.จารุวรรณ ศรัณย์เกตุ กรรมการบริหารพรรค และนายสุนทร บุญยอด คณะกรรมการบริหารพรรคปีกแรงงาน ร่วมกับสมาชิกพรรคอนาคตใหม่ จ.อุตรดิตถ์ เปิดศูนย์ประสานงานพรรคอนาคตใหม่จังหวัดอุตรดิตถ์ ปักธงอนาคตใหม่ในจังหวัด โดยมีสมาชิกจากทั้ง 9 อำเภอ เข้าร่วมอย่างคับคั่ง โดยเฉพาะเรื่องของนโยบายด้านเกษตรก้าวหน้าซึ่งพูดถึงเรื่องที่ดินและนโยบายรัฐสวัสดิการ ซึ่งอยู่ในความสนใจของสมาชิกพรรคอนาคตใหม่จังหวัดอุตรดิตถ์

น.ส.จารุวรรณ กล่าวว่า ในฐานะคนอุตรดิตถ์ มีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้มาพบปะพี่น้องชาวอุตรดิตถ์อีกครั้ง ถือเป็นสถานที่ๆคุ้นเคยและเติบโตมาตั้งแต่เด็ก ทั้งนี้ สิ่งหนึ่งที่ตนสัมผัสได้คือสภาพปัญหาต่างๆที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน เป็นปัญหาที่ต่อเนื่องมาแต่อดีตไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาพืชผลทางการเกษตร หรือการไร้ที่ดินทำกินของเกษตรกร ซึ่งพรรคอนาคตใหม่เพิ่งได้เปิดนโยบายที่มีความเกี่ยวเนื่องกับทั้ง 2 เรื่องไปเมื่อวานนี้ ส่วนตัวมีความมั่นใจว่า พรรคอนาคตใหม่จะสามารถนำเอาวิธีการและแนวคิดใหม่ๆของพรรค มาสร้างการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้อย่างแท้จริง

"ปัญหาสำคัญของการขาดที่ดินทำกิน และปัญหาว่าด้วยข้อพิพาทที่ดินทำกินทับซ้อนพื้นที่ป่า พรรคอนาคตใหม่มีนโยบายแก้ไขปัญหา ด้วยการระงับข้อพิพาททั้งหมด ไม่ให้ไล่คนออกนอกพื้นที่ แล้วหาช่องทางไกล่เกลี่ย โดยในระยะยาวจะต้องมีการสำรวจแนวป่าเพื่อสะสางขีดเส้นพื้นที่ใหม่ให้สอดคล้องกับความเป็นจริง พร้อมทั้งออกเอกสารสิทธิ์ในพื้นที่ๆหมดสภาพป่าแล้ว และบริหารจัดการให้คนอยู่ร่วมกับป่าได้อย่างยั่งยืนในอนาคต"  น.ส.จารุวรรณ กล่าว

ด้าน นายสุนทร กล่าวว่า ปัจจุบันสังคมไทยเป็นสังคมที่เหลื่อมล้ำที่สุดในโลก ซึ่งพี่น้องชาวอุตรดิตถ์น่าจะสัมผัสได้ด้วยตนเอง ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะของแรงงานทั้งในและนอกระบบ หรือในฐานะของเกษตรกรเอง แต่ที่ผ่านมาการแก้ปัญหาด้วยระบบสวัสดิการของประเทศไทย เน้นไปที่การสงเคราะห์ ด้วยการตีตราคนจนให้ไร้ซึ่งศักดิ์ศรี หรือการแจกเงินอย่างไม่เป็นระบบ เป็นครั้งคราว แต่สิ่งที่พรรคอนาคตใหม่ต้องการสร้าง คือรัฐสวัสดิการที่ครบวงจร ตั้งแต่ตั้งครรภ์ วัยเด็ก จนถึงวัยศึกษา วัยทำงาน และวัยชรา โดยมีหลักการเพื่อลดรายจ่ายและภาระหนี้สินของประชาชน เช่นการขยายสิทธิลาคลอดเป็น 180 วัน, เงินเลี้ยงดูบุตร 1.200 บาท/เดือน, การอุดหนุนเยาวชนอายุ 18-22 ปี 2,000 บาท/เดือน,คนทำงานมีหลักประกันทั้งในระบบและนอกระบบ, การเพิ่มเบี้ยผู้สูงอายุเป็น 1,800 บาท/เดือน  เป็นต้น

โดยการทำรัฐสวัสดิการครบวงจรของพรรคอนาคตใหม่นี้ คาดว่าจะใช้งบประมาณอยู่ที่ 650,000 ล้านบาท ซึ่งต้องหางบประมาณมาเพิ่มอีก 370,000 ล้านบาท จากงบจัดสรรสวัสดิการเดิม 280,000 ล้านบาท ทั้งนี้ สามารถทำได้ด้วยการลดงบกองทัพลง 30%, ลดสิทธิพิเศษทางภาษี BOI และสิทธิพิเศษทางภาษีอื่นๆ, ลดงบกลางและรายจ่ายประจำลง และมาตรการอื่นๆ ซึ่งจะทำให้รัฐสามารถได้เงินมาจัดสรรรัฐสวัสดิการได้อย่างครบวงจรโดยไม่เสียวินัยทางการคลัง

“คนตัวเล็กตัวน้อยขายของชำหน้าบ้านยังต้องเสียภาษี นี่นายทุนผูกขาดทั้งหลายที่ผ่านมาทำธุรกิจแทบไม่ต้องเสียภาษี สิ่งนี้ต้องเปลี่ยน คนจนถูกขูดรีดภาษีมามากพอแล้ว ได้เวลาที่เราต้องขูดรีดภาษีจากทุนผูกขาดบ้างแล้ว นี่คืออนาคตใหม่ ที่จะไม่ได้แจกแต่เงิน แต่คือการลดช่องว่างระหว่างคนรวยกับคนจนลง” นายสุนทรกล่าว