ดร.สมคิด  จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีกล่าวปาฐกถาพิเศษในงาน "Thailand's  Economic Outlook 2019 อนาคตเศรษฐกิจไทย" ได้กล่าวว่า บทบาทของประเทศไทยในขณะนี้ถือว่าใช้ได้มากที่สุดในเวทีโลก ประเทศไทยมีความสัมพันธ์เชิงลึกกับจีนเหนือคนอื่น 1 ก้าวตลอด ล่าสุดมีการไปเจรจา PPRD 11 จังหวัดทางใต้ของเขา เช่น ฮ่องกง มาเก๊า กวางโจว เป็นการเชื่อมทางรถไฟจากจีนตอนใต้มาสู่ลาว แล้วมาสู่ไทย สิ่งที่ไทยเสนอไปคือขอให้ไทยมีกลไกในการเชื่อมต่อ 3 เมืองที่เป็นหัวมังกร เราสามารถกำหนดได้เลยว่าจีนจะมีการลงทุนอะไรในเมืองไทย การท่องเที่ยว การแลกเปลี่ยนทุกอย่างจะเป็นอย่างไร จีนกำลังใช้ฮ่องกงเป็นหัวหอกในการบุกลงมาลงทุนทางใต้ของจีน ภายใต้โครงการ one belt one road แม้ว่าจะลงไปถึงมาเลเซียก็ไม่เป็นไร เพราะไทยมีโครงการที่จะทำรถไฟรางคู่ตัดระหว่างชุมพร-ระนอง ญี่ปุ่นก็เป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีความสัมพันธ์ทางการค้าที่ลึกซึ้ง มีโครงการมากระจายการลงทุนในอีอีซี และถ้าหากซัพพลายเชนต่างๆ ถ้าหากไม่สามารถปรับเข้าสู่ดิจิทัลจะทำให้ตกขบวนห่วงโซ่การผลิต ในอนาคตข้างหน้าการประสานการผลิตทั้งหมดจะเชื่อมต่อไปที่โตเกียวผ่านทางดิจิทัล เราไม่เตรียมตัวกับสิ่งเหล่านี้จะลำบาก ทุกวันนี้ญี่ปุ่นมาทั้งไทยและไปเวียดนาม จีนก็เช่นกัน แต่เรามีภาษีเหนือกว่า เพราะมีสัมพันธ์ที่ดีมาตลอด ไม่เคยมีปัญหา นอกจากนี้ยังมีสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับอเมริกา ไพ่ 3 ใบนี้บริหารให้สมดุล ไทยใช้จุดขายเพื่อดึงนักลงทุนว่าการมาลงทุนกับไทยเพื่อเป็นสำนักงานใหญ่ขยายไปยังกลุ่มประเทศอาเซียนและ CLMV ในปีหน้าไทยเป็นประธานอาเซียน หากสามารถเล่นบทเป็นผู้นำ เพราะปัจจัยต่างๆ เกื้อหนุนไทย ไทยก็จะเด่นไปทั่วโลก   https://www.youtube.com/watch?v=Mgk7AF-wnws&feature=youtu.be