วันที่ 28 ธันวาคม 2561 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยถึงกรณีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ( ป.ป.ช.) สรุปผลปมครอบครองนาฬิกาหรูโดยมีมติ 5 ต่อ 3 เห็นว่าพล.อ.ประวิตรไมได้แสดงทรัพย์สินอันเป็นเท็จ ว่า ไม่รู้ว่าเป็นการให้ความเป็นธรรมหรือเปล่า เพราะเป็นเรื่องของป.ป.ช. ไม่ใช่เรื่องของผม อีกทั้งได้ชี้แจงทุกอย่างไปหมดแล้ว

ถามว่าโล่งใจหรือไม่ เพราะเป็นเรื่องที่ถูกพูดถึงมาตลอดกว่า 1 ปี พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่เคยมีอะไรอยู่ในใจ ถ้าผลสอบออกมาว่าไม่ดีก็คือไม่ดี ถ้าดีก็คือดี ก็ไม่มีอะไรที่ต้องกังวล

ด้าน ร.ต.อ.วัฒนรักษ์ สุรนาทยุทธ์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องครอบครองนาฬิกาหรูยังมีอีกหลายประเด็นที่เคลือบแคลงและน่าสงสัย ซึ่งเพื่อไทยขอตั้งสังเกตว่า มีมาตรฐานใดหรือตัวชี้วัดเกี่ยวกับผลประโยชน์ทับซ้อนว่ามีจริงหรือไม่ และเหตุใด คณะกรรมการ ป.ป.ช.  จึงเชื่อว่านาฬิกาเป็นของนายปัฐวาท เก็บที่บ้านตลอดจริง และจากการที่นายปัฐวาทได้เสียชีวิตไปนานแล้วนั้น ใครเป็นคนอนุญาตให้ยืม และด้วยเหตุผลกลใด ทำไมจึงไม่มีการเรียกร้องหรือทวงคืน เพราะนาฬิกามีจำนวนตั้งหลายเรือนแถมยังมีมูลค่าเป็นร้อยล้านบาท

"เรื่องนี้ไม่ชัดเจน หากชาวบ้านโดนเหมือนพล.อ.ประวิตร แล้วบอกว่ายืมเพื่อนมาเหมือนกัน จะรอดเหมือนพล.อ.ประวิตรมั้ย พรรคมีความเห็นว่านาฬิกาเป็นของใช้เฉพาะบุคคล จะเป็นไปได้หรือที่มีเพื่อนมาขอยืมใส่กันหลายคน เพราะขนาดของข้อมือแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน และในการซื้อขายนาฬิกาหรูราคาแพง  จากบริษัทฯ น่าจะต้องมีการลงทะเบียนยืนยันการครอบครอง  หาก ป.ป.ช. นำหลักฐานเหล่านี้มาแสดงให้กับประชาชนได้ทราบว่า ใครคือผู้ที่ซื้อนาฬิกาเหล่านี้มา คงจะช่วยไขความกระจ่างเพื่อให้ประชาชนชาวไทยได้คลายความเคลือบแคลง สงสัยในใจลงไปได้บ้าง" รองโฆษกเพื่อไทย กล่าว