“ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์”อาสาปกป้อง“ผู้หญิง” ต้องมีชีวิตอยู่อย่าง“ปลอดภัย”ในสังคมไทย

by ThaiQuote, 2 มกราคม 2562

ธณิกานต์ จบการศึกษาระดับปริญญาโท เศรษฐศาสตร์ (การจัดการทรัพย์กรมนุษย์) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ขณะที่ระดับปริญญาตรี เธอจบจากคณะนิเทศศาสตร์ (โฆษณา) จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเช่นกัน ก่อนหน้าที่ ธณิกานต์ จะตัดสินใจลงเล่นการเมืองและตอบตกลงเข้าสังกัดพรรคพลังประชารัฐนั้น ธณิกานต์ ได้เก็บเกี่ยวประสบการณ์ในการเข้าร่วมงานกับที่ต่างๆ โดยเธอดำรงตำแหน่ง ผู้บริหารระดับสูงในธุรกิจเกี่ยวกับโพลิเมอร์ พลาสติก อะคริลิก และถ้วยรางวัล นอกจากนี้ ธณิกานต์ ยังเป็นผู้ก่อตั้งและดีไซเนอร์ ผลิตภัณฑ์กระเป๋าที่ทำจากวัสดุอะคริลิกแบรนด์ D.O.C. และยังเป็นผู้ร่วมก่อตั้ง ผลิตภัณฑ์อาหารเพื่อสุขภาพ แบรนด์ Souper Bowl (ซุปปลา) ประสบการณ์นอกสนามการเมือง ต้องยอมรับว่า ธณิกานต์ สามารถยืนอยู่บนเวทีนักธุรกิจหญิงได้อย่างแข็งแกร่ง และไม่ได้เป็นเบอร์รองใคร เพราะเธอรักที่จะเรียนรู้ และเปิดรับโอกาสใหม่ที่มีเข้ามาในชีวิตเธอตลอดเวลา ปรัชญาในการทำงานของอุ๋ม อุ๋มคิดเสมอว่า ทุกก้าวของชีวิตคือการเรียนรู้ เพราะอุ๋มอาจจะโชคดี ที่มีโอกาสใหม่ๆ เข้ามาตลอดเวลา แต่อยู่ที่ว่า เราพร้อมหรือไม่พร้อม ถ้าเราพร้อมและเมื่ออุ๋มตัดสินใจแล้ว อุ๋มก็จะมุ่งมั่นตั้งใจ และก้าวไปสู่เป้าหมายอย่างเต็มกำลังความสามารถ” 0ทำไมถึงสนใจงานการเมือง ธณิกานต์ ยอมรับว่า ก่อนหน้านี้ มุมมองทางการเมืองตอนนั้น เราอยู่ในฐานะผู้ชม เรามองไม่เห็นภาพว่าตัวเองกับการเมืองจะเชื่อมกันได้อย่างไร แต่วันนี้ เมื่อมีผู้ใหญ่ในพรรคพลังประชารัฐท่านเข้ามาชวน เราก็เห็นเป็นโอกาส เห็นความเป็นไปได้ และเป็นความตั้งใจของเรา ที่ต้องการจะได้ใช้ความรู้ความสามารถที่เรามีอยู่ นำมาต่อยอดให้เป็นประโยชน์แก่ประเทศชาติ อุ๋มเลยตัดสินใจเข้ามาเป็นผู้เล่น และมาเรียนรู้ในสนามจริงด้วยตัวเองมากขึ้น เมื่อก่อนมองไม่เห็นภาพตัวเอง จะสามารถเป็นส่วนใดของการเมืองได้ จนเมื่อมีผู้ใหญ่ที่นับถือมอบโอกาสและชวนให้มาอยู่ร่วมพรรค” จากนั้นจึงตั้งคำถามกับตัวเองว่า การเมืองคืออะไร และ “ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์” ก็ได้พบกับคำตอบว่า การเมืองคือการบริหารจัดการประเทศ เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับคน ระบบ และสถานการณ์ นี่คือสิ่งที่เราเรียนมา เป็นทักษะ และคือสิ่งที่เราบริหารจัดการมาโดยตลอด เรามีประสบการณ์ แต่เป็นเพียงในองค์กรของตัวเองเท่านั้น ต่อมาอุ๋มจึงได้เริ่มเข้ามาพูดคุย และนำเสนอให้มีการจัดเวิร์คชอป เพื่อที่แต่ละคนจะได้สำรวจตัวเองด้วยว่า เราอยู่ตรงไหนกับการเมือง คุณเห็นภาพเป็นอย่างไรบ้าง และการเวิร์คชอป ทำให้พบว่า โอกาสของคนรุ่นใหม่กับการเมืองไทย เป็นเรื่องของความเป็นไปได้ ที่จะนำความรู้ความสามารถที่มี มาเป็นต่อยอดสร้างประโยชน์ หรือสร้างคุณค่า หรือมูลค่าเพิ่มให้กับบ้านเมืองเราได้” ธณิกานต์ กล่าว 0สนใจ“การศึกษา-การปกป้องผู้หญิง-การท่องเที่ยง”มากที่สุด ธณิกานต์ บอกด้วยว่า การลงสนามการเมืองของเธอครั้งนี้ มี 3 เรื่องที่เธอสนใจ และทุ่มเทให้กับมัน นั้นก็คือ ด้านการศึกษา เพราะต้นตอของปัญหาหลายๆ อย่างเกิดจากการขาดการศึกษา ความไม่รู้มีต้นทุนสูงมาก เพราะเมื่อไรที่อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ สื่อสารไม่ตรง จะถูกเอาเปรียบ หรือตัดโอกาสหลายๆ อย่างในชีวิต และยังเป็นต้นตอของการเกิดความเหลื่อมล้ำ ดังนั้น ธณิกานต์ ในฐานะที่เธอเป็นคนรุ่นใหม่ และมีความรู้ความเชี่ยวชาญในการนำ ดิจิทัล แพลตฟอร์ม มาใช้กับสังคมไทยในปัจจุบัน ซึ่งเธอสามารถที่จะนำความรู้เหล่านี้เข้ามาช่วยเหลือแก้ปัญหาได้ และสามารถนำมาเชื่อมองค์ความรู้และก่อให้เกิดการเข้าถึงได้มากขึ้น ขณะที่ ด้านการท่องเที่ยว ธณิกานต์ บอกว่า ถ้ามองในเชิงเศรษฐกิจ แต่ละปีการท่องเที่ยว เป็นอีกหนึ่งรายได้หลักของประเทศไทย สถานที่สำคัญๆ หลายแห่งของไทยมีเรื่องราวและมีศักยภาพที่สามารถเป็นมรดกโลกได้ เพียงแต่ขาดการวางแผนการสื่อสารประชาสัมพันธ์แบบบูรณาการและต่อเนื่อง การเข้าถึงองค์กรระดับโลกมาให้การรับรอง รวมถึงการซ่อมสร้างและขยายการส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทย วัฒนธรรม ชุมชน ของดีของขึ้นชื่อของตำบล หรือจังหวัดต่างๆ ธณิกานต์ มองสิ่งเหล่านี้ สามารถใช้ฐานข้อมูลที่มีการสร้างแพลตฟอร์มเชื่อมข้อมูลนำมาจัดโซน ให้ความต้องการและความคาดหวังของนักท่องเที่ยวถูกตอบสนอง เพิ่มคุณค่าให้การท่องเที่ยว 0เร่งผลักดันมาตรการความปลอดภัยของผู้หญิง นอกจากนี้ ธณิกานต์ มองว่า การที่เป็นผู้หญิง และก้าวเข้ามาทำงานการเมือง จุดนี้ถือเป็นโอกาสมากๆ ทุกคนมีความฝัน แม้แต่ตัวเธอเองก็มีความฝัน โดยต้องการเป็นตัวแทนของผู้หญิง และต้องการทำงานจริงจังในเรื่องการใส่ใจความปลอดภัยของผู้หญิง ซึ่งต้องการผลักดันให้เกิดความคุ้มครองผู้หญิงให้อยู่อย่างปลอดภัย โดยมีองค์ความรู้ที่จะดูแลตัวเองได้ในแต่ละช่วงวัย ตั้งแต่วัยเด็ก จนถึงช่วงสุดท้ายของชีวิต เพื่อทำให้ผู้หญิงทุกคนเขารู้สึกปลอดภัยในระยะยาว ธณิกานต์ บอกด้วยว่า วันนี้สังคมไทย ยังขาดผู้นำที่ผลักดันให้ผู้หญิงได้รับสิทธิในบางเรื่อง ซึ่งไม่ใช่เรื่องความเท่าเทียมกัน เพราะตรงนี้คิดว่าประเทศไทยค่อนข้างเปิดกว้าง เมื่อเราได้เข้ามาแล้ว แต่สิ่งที่อยากผลักดัน คือ ทุกวันนี้ศักยภาพของผู้หญิงถูกละเลย และถูกมองข้าม ดังนั้นจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องให้ความใส่ใจเรื่องมากขึ้น เนื่องจากเป็นปัญหาผู้หญิงที่ผู้ชายไม่เข้าใจ เพราะบทบาทหน้าที่ ความรับผิดชอบ ความคาดหวัง เช่น การดูแลครอบครัว ดูแลลูก และการออกมาทำงานในสังคม เรียกได้ว่า ผู้หญิงยุคนี้ มือก็ไกวดาบก็แกว่ง ถ้าภาครัฐตระหนัก และรับเป็นเจ้าภาพ จะทำให้เกิดประสิทธิผลได้กว้างขวางกว่า นโยบายการศึกษา การพัฒนาศักยภาพ คุณภาพความคิด การดูแลตัวเอง สุขภาพ การวางแผนครอบครัว การวางแผนป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัย การวางแผนการเงิน ทั้งหมดนี้ต้องให้มีองค์ความรู้ มีความเข้าใจที่จะดูแลตัวเองได้ในทุกช่วงวัย และก่อให้เกิดความรู้สึกปลอดภัยในระยะยาว ซึ่งการทำเรื่องนี้ได้และเกิดประสิทธิผลที่ดี ต้องมีแนวร่วม มีทีม มีผู้ชายหลายคนที่มาช่วยคิด ช่วยสนับสนุน สร้างบ้านเมืองสงบสุข อุ๋มอยากผลักดัน campaign นี้ เพื่อผู้หญิงทุกคนที่ไม่ยอมจำนนต่อเงื่อนไขของชีวิต และเราจะสู้เคียงข้างกันไป" 0มุมมองของประเทศไทยเป็นเช่นไร นอกจากนี้ ธณิกานต์ ยังมองว่า ประเทศไทยยังมีโอกาส แม้จะไม่ได้มีการเลือกตั้งมานานมาก ดังนั้นการเลือกตั้งที่กำลังจะถึงในครั้งนี้ จึงเหมือนเป็นการล้างกระดานเริ่มต้นใหม่ จากที่ผ่านมามีแต่ความขัดแย้งมาโดยตลอด ขึ้นอยู่ว่าตัวเราเองอยากจะมีส่วนช่วยให้ประเทศเปลี่ยนแปลงไปเช่นไร เปลี่ยนจากเคยเป็นผู้ชมและนักวิจารณ์ มาเป็นตัวแทนประชาชนอาสาลงมือทำ ซึ่งตลอดระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ที่ได้เข้ามาช่วยพรรคพลังประชารัฐ เธอได้นำทักษะความรู้ความสามารถที่มีมาใช้ ทำให้ตัวเองได้เรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของตัวเองขึ้นเยอะมาก 0จุดเด่นของตัวเองที่จะสามารถพัฒนาประเทศได้ ธณิกานต์ ยังบอกอีกว่า การบริหารจัดการ ถือเป็นจุดเด่นในตัวเธอที่จะสามารถนำมาใช้และช่วยในการพัฒนาประเทศได้ เนื่องจากที่ผ่านมา เธอเป็นนักบริหารมาโดยตลอด เพียงแต่เปลี่ยนจากการบริหารจัดการในระดับองค์กร ขยายมาเป็นการบริหารจัดการระดับประเทศเท่านั้น ดังนั้น แม้ว่า ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ เธอจะเป็นผู้หญิง และเธอก้าวเข้ามาทำงานการเมือง แต่เธอกลับมองว่า ช่วงเวลานี้ถือเป็นโอกาสมากๆ สำหรับเธอ เพราะเธอมีความฝัน โดนต้องการเป็นตัวแทนผู้หญิง และต้องการอาสามาทำงานอย่างจริงจัง เพื่อต้องการผลักดันให้เกิดความคุ้มครองผู้หญิง และผู้หญิงเพศที่สาม สามารถใช้ชีวิตอยู่อย่างปลอดภัยในสังคมไทยอย่างมีความสุข