วิธีปฐมพยาบาล แมลงสัตว์กัดต่อยช่วงน้ำท่วม พายุเข้า
by ThaiQuote, 6 มกราคม 2562
ตะขาบ
ตะขาบเป็นสัตว์มีพิษที่อาศัยอยู่ในที่ชื้นแฉะ และอาศัยอยู่ในหลายแหล่งพื้นที่ เช่น ใต้เปลือกไม้ ขุดรูในดิน ฯลฯ เมื่อระดับน้ำสูงขึ้นจนท่วมแหล่งที่อยู่อาศัย ตะขาบอาจจะหนีน้ำมายังที่พักอาศัยของคนได้ ดังนั้นตะขาบจึงเป็นสัตว์มีพิษที่พบได้บ่อยเมื่อเวลาน้ำท่วม และตะขาบจะกัดคนโดยใช้เขี้ยวคู่หน้าและฉีดน้ำพิษเข้าไปในแผลที่กัด
โดยปกติพิษจะไม่รุนแรงถึงแก่ชีวิต ความรุนแรงขึ้นอยู่กับขนาดของตะขาบที่กัด อาการส่วนใหญ่ ได้แก่ อาการปวด คัน บวม แดงร้อน ในบริเวณที่ถูกกัด อาจมีไข้ต่ำๆ ร่วมด้วย และมักมีอาการดีขึ้นเองภายใน 24 ชั่วโมง
วิธีการปฐมพยาบาลเมื่อตะขาบกัด
- ทำความสะอาดบริเวณที่ถูกกัดด้วยน้ำสะอาด
- สามารถประคบน้ำอุ่นครั้งละประมาณ 10 นาทีเพื่อลดอาการปวด
- หลีกเลี่ยงการเกา แกะ บริเวณที่ถูกกัด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อซ้ำซ้อน
- ถ้ามีอาการปวดสามารถกินยาพาราเซตามอลเพื่อแก้ปวดได้
- ควรไปพบแพทย์หากสังเกตเห็นอาการใดๆ ที่แย่ลงหรือเริ่มรู้สึกว่าผิวหนังบริเวณนั้นเกิดการติดเชื้อ ได้แก่ มีรอยแดง การบวม หรืออาการเจ็บปวดเพิ่มขึ้น มีแผลพุพองหรือน้ำเหลืองบนบริเวณที่เกิดแผล
- ในรายที่มีอาการแพ้รุนแรงเช่น บวมบริเวณใบหน้า หายใจลำบาก แน่นหน้าอก หน้ามืดเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ช็อคหมดสติ รีบพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที
แมงป่อง
แมงป่องเป็นสัตว์มีพิษที่ชอบอาศัยอยู่ในที่มืดและชื้น เช่น ใต้ใบไม้ ใต้ก้อนหิน หรือขุดรูอยู่ แมงป่องเป็นสัตว์มีพิษที่มีขา 4 คู่ ขาคู่หน้ามีลักษณะเป็นกล้ามใหญ่ ส่วนหางเป็นปล้อง และปล้องสุดท้ายมีต่อมพิษร้ายและปลายปล้องจะมีอวัยวะที่ใช้ต่อย อาการส่วนใหญ่จะไม่รุนแรง เช่น อาการปวด บวม แดง ร้อน ในบริเวณที่ถูกต่อย โดยมีอาการมากในวันแรกและมักหายได้เอง ส่วนรายที่มีอาการรุนแรง อาจมีหัวใจเต้นเร็ว หายใจเร็ว ความดันโลหิตสูง ปวดกล้ามเนื้อและกระดูกวิธีการปฐมพยาบาลเมื่อแมงป่องต่อย
- ทำความสะอาดบริเวณที่ถูกกัดด้วยน้ำสะอาด
- สามารถประคบเย็นครั้งละประมาณ 10 นาที เพื่อลดอาการบวมเฉพาะที่
- ถ้ามีอาการปวดสามารถกินยาพาราเซตามอลเพื่อแก้ปวด
วิธีปฐมพยาบาลเมื่อถูกแมลงกัดต่อย
- ทำความสะอาดบริเวณที่ถูกกัดด้วยน้ำสะอาด ถ้ามีเหล็กในให้ดึงออกทันทีเพื่อลดปริมาณพิษเข้าไปในร่างกายมากขึ้น(ปกติพิษจะถูกฉีดจนหมดในเวลาอันรวดเร็ว)
- ใช้เล็บมือหรือบัตรลักษณะแข็งค่อยๆ ขูดเอาเหล็กในออกมา หลีกเลี่ยงการใช้แหนบดึงเหล็กในออก เนื่องจากอาจทำให้พิษหลั่งออกมามากขึ้น
- สามารถประคบเย็นครั้งละประมาณ 10 นาที เพื่อลดอาการบวมเฉพาะที่
- หลีกเลี่ยงการเกา แกะบริเวณที่ถูกกัด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อซ้ำซ้อน
- สามารถรับประทานยาต้านฮิสตามีน ทายากลุ่มยาต้านฮิสตามีน และยาทากลุ่มเสตียรอยด์ เพื่อลดอาการคัน ปวดแสบร้อน
- ถ้ามีอาการปวดสามารถกินยาพาราเซตามอลเพื่อแก้ปวดได้
- ควรไปพบแพทย์หากสังเกตเห็นอาการใดๆ ที่แย่ลงหรือเริ่มรู้สึกว่าผิวหนังบริเวณนั้นเกิดการติดเชื้อ ได้แก่ มีรอยแดง การบวม หรืออาการเจ็บปวดเพิ่มขึ้น มีแผลพุพองหรือน้ำเหลืองบนบริเวณที่เกิดแผล
- ในรายที่มีอาการแพ้รุนแรง เช่น บวมบริเวณใบหน้า หายใจลำบาก แน่นหน้าอก หน้ามืดเวียนศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ช็อคหมดสติ รีบพาผู้ป่วยไปโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดทันที
- สำหรับผู้ป่วยที่มีโอกาสสัมผัสแมลงที่แพ้บ่อยๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ควรได้รับยา epinephrine แบบพกติดตัว เพื่อใช้ในกรณีฉุกเฉินและเรียนรู้วิธีใช้ได้อย่างถูกต้อง