สื่อหลายสำนักรายงานว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบ้านพักนายไพบูลย์ ศรีทอง อายุ 43 ปี ชาวบ้านอ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี หลังร้องเรียนว่าได้รับหนังสือจากสรรพากรพื้นที่ เตือนให้ไปชำระภาษีอากรค้างจ่ายถึง 3 ครั้ง โดยครั้งแรกระบุว่าค้างชำระ 29 ล้านบาท ครั้งที่ 2 จำนวน 335 ล้านบาท และครั้งล่าสุด 483 ล้านบาทเศษ ทั้งๆ ที่ตัวเองมีฐานะยากจน และมีอาชีพรับจ้างก่อสร้างทั่วไปเท่านั้น ในข่าวระบุด้วยว่า บ้านของนายไพบูลย์เป็นบ้านเอื้ออาทรสำหรับผู้ยากไร้ ด้านข้างมีเพิงหมาแหงน จำนวน 2 เพิง ใช้ไม้ยูคาลิปตัสเป็นเสาล้อมด้วยผ้าพลาสติก เป็นที่อยู่ของมารดาและหลาน ทั้งนี้ นายไพบูลย์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวที่ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว ว่า ทุกครั้งที่มีหนังสือเตือนชำระภาษีอาการที่ค้างจ่าย จะเรียนถึง กรรมการผู้จัดการบริษัท มาแทน เฟอร์นิเจอร์ จำกัด เลขที่ 63 หมู่ 2 ต.ประจันตคาม อ.ประจันตคาม จ.ปราจีนบุรี ซึ่งตนเองไม่เคยมีบริษัทมาก่อน แต่จำได้ว่าเมื่อหลายปีที่ผ่านมาเคยทำงานในร้านเฟอร์นิเจอร์แห่งหนึ่งก่อนจะลาออกไป ซึ่งสาเหตุน่าจะมาจากการแอบอ้างนำสำเนาบัตรประชาชนไปใช้ประโยชน์โดยที่ไม่ทราบเรื่องมาก่อน อีกทั้งยังมีฐานะยากจน มีอาชีพรับจ้าง คงไม่มีทางที่จะทำธุรกิจขนาดหลักร้อยล้านบาทได้แน่นอน และจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ครอบครัวอยู่ในความวิตกกังวลอย่างมาก "ที่ผ่านมาเคยสอบถามไปยังสรรพากรพื้นที่ปราจีนบุรี แต่ก็ได้รับคำตอบว่าทำตามหลักฐานที่ปรากฎ ซึ่งผมก็ได้ชี้แจงไป ขณะเดียวกันก็ได้ไปแจ้งความกับตำรวจ แต่ก็ไม่มีความคืบหน้า" นายไพบูลย์ กล่าวกับนักข่าว   นายไพบูลย์ ระบุอีกว่า อยากร้องขอความเป็นธรรมเพราะไม่เคยมีบริษัท แต่ถูกเรียกเก็บภาษี และถ้าทำเองจะไม่เสียใจหรือต้องมากังวลใดๆ เลย แต่สิ่งที่เกิดขึ้นไม่ได้เกี่ยวข้องและไม่รู้เรื่องมาก่อน อีกทั้งทุกวันนี้ก็หากินลำบากอยูแล้ว อีกทั้งภาษีที่เรียกเก็บมาจาก 29 ล้านบาท เพิ่มเป็น 335 ล้านบาท และล่าสุดที่ 483 ล้านบาท ถ้าเรียกเก็บกันขนาดนี้ชีวิตคงสุขสบายแล้ว แต่รายได้ทุกวันนี้หาได้ไม่เกิน 500 บาท/วัน ใครเอาชื่อผมไปหาประโยชน์อยากให้สื่อช่วยตีแผ่ด้วย อย่างไรก็ตาม พ.ต.ท.อาทิตย์ ศรีปราชญ์ พนักงานสอบสวน สภ.ประจันตคาม กล่าวว่า หลังจากได้รับการแจ้งความจากเจ้าหน้าที่สรรพากรพื้นที่ปราจีนบุรีแล้ว มีการออกหมายเรียก นายไพบูลย์ มาทำการสอบสวน ซึ่งเจ้าตัวให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา โดยพนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อกล่าวหา 2 ข้อ ไม่ยื่นแสดงภาษี และหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร และจะสรุปสำนวนส่งฟ้องต่อไป     ขอบคุณภาพจาก Workpointnews