ล่าสุดพ.อ.เศรษฐพงค์ มะลิสุวรรณ รองประธานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ในฐานะประธานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคม (กทค.) ออกมาสยบข่าวแล้วว่า ที่ประชุมกทค.ได้หารือถึงความห่วงใยกรณีการจ่ายเงินค่าใบอนุญาตคลื่นความถี่ 900 MHz ของ 2 บริษัทที่ประมูลได้คือบริษัท ทรูมูฟ เอช ยูนิเวอร์แซล คอมมิวนิเคชั่น จำกัด (ทียูซี) และ บริษัท แจส โมบาย บรอดแบนด์จำกัดซึ่งที่ประชุมยืนยันว่าทั้งสองบริษัทจะต้องนำเงินค่าใบอนุญาตงวดแรกจำนวน 8,040 ล้านบาท พร้อมกับหนังสือรับรองทางการเงิน (แบงก์ การันตี)มาจ่ายภายในวันที่ 21 มี.ค.2559 เนื่องจากการประมูลคลื่นความถี่เป็นประโยชน์ของรัฐไปแล้ว ผู้ชนะการประมูลจะต้องดำเนินการตามเงื่อนไขการประมูล หากมีเหตุจำเป็นเกิดขึ้นผู้ชนะการประมูลจะต้องไม่ทำให้เกิดความเสียหายกับภาครัฐไม่เช่นนั้นจะต้องรับผิดชอบตามเงื่อนไขการประมูล

          ด้านนายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการ กสทช. กล่าวว่ากรณีที่มีกระแสข่าวปรากฎในสังคมออนไลน์ว่ามีผู้ชนะประมูลบางรายไม่มีเงินจ่ายค่าใบอนุญาตนั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริงเพราะตามประกาศหลักเกณฑ์การประมูลได้กำหนดให้ผู้ขอรับใบอนุญาตต้องรับผิด หากดำเนินผิดตามหนังสือยินยอมซึ่งจะมีผลให้ต้องชดใช้ค่าเสียหาย และยึดหลักประกันการประมูลจำนวน 644 ล้านบาท รวมถึงค่าใช้จ่ายในการประมูลหากต้องประมูลคลื่นความถี่ใหม่เต็มจำนวน ประมาณ 50 ล้านบาทด้วย ซึ่งจากกระแสข่าวที่ออกไปเป็นไปได้ยากว่าจะไม่มีคนนำเงินมาชำระเพราะนอกจากต้องรับผิดชอบในส่วนต่างที่เกิดขึ้นแล้วยังจะส่งผลกระทบกับใบอนุญาตเดิมที่มีอยู่ เมื่อเขายังมีสิทธินำเงินมาชำระภายในวันที่ 21 มี.ค. จึงขอเวลาให้เขาก่อน

          ทั้งนี้ผู้ชนะการประมูลทั้งสองรายได้มาขออนุญาตกสทช.ในการนำเข้าและติดตั้งอุปกรณ์โครงข่าย 4G แล้ว ซึ่งหากเกิดเหตุสุดวิสัยมีผู้ชนะการประมูลไม่นำเงินมาจ่ายจะต้องมีการประมูลใหม่เกิดขึ้น ไม่มีการเรียกลำดับที่สองและสามมาเป็นผู้ได้รับสิทธิแทนเนื่องจากการประมูลเสร็จสิ้นไปแล้ว ซึ่งหลังจากวันที่ 21 มี.ค.กสทช.จะให้เวลา 3 เดือนเพื่อหาผู้สนใจเข้าร่วมประมูลใหม่ หากมีผู้เข้าร่วมประมูลก็จะสามารถเปิดประมูลได้ทันที แต่หากไม่มีกสทช.จะเว้นการประมูลออกไป 1 ปี ก่อนจึงจัดประมูลใหม่ได้ คนที่ไม่มาจ่ายเงิน กสทช. ก็ต้องถูกขึ้นบัญชีดำทั้งการประมูลที่ต้องประมูลใหม่และทั้งในส่วนใบอนุญาตที่ถืออยู่

อย่างไรก็ตาม ผู้ชนะประมูลทั้งสองรายได้โทรศัพท์มาปรึกษา และยืนยันว่าจะจ่ายเงินแน่นอน และจะมาจ่ายให้เร็วที่สุดที่เป็นไปได้ คิดว่าความล่าช้าน่าจะเป็นการพิจารณาตกลงเรื่องโครงข่ายเพราะหากไม่ชัดเจนเปิดให้บริการไม่ได้ก็จะมีผลหลังเปิดให้บริการแล้ว ทั้งสองรายไม่รู้ว่าข่าวที่ออกมามาจากที่ไหน