สำนักข่าวต่างประเทศอย่าง South china Morning Post รายงานข่าวชิ้นสำคัญ โดยระบุว่า ฮ่องกง จะเปิดหอคอยฟอกอากาศใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อช่วยฟอกอากาศและมลพิษ รวมถึงยังช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์สู่ชั้นบรรยากาศ 

รายงานข่าวระบุว่า หอคอยฟอกอากาศที่รูปทรงคล้ายเกลียวใบไม้ ตั้งตระหง่านอยู่บริเวณริมถนนบายพาส เซ็นทรัล-หว่านไจ๋ และมีคุณสมบัติในการกำจัดอานุภาคที่เป็นอันตรายต่อระบบทางเดินหายใจ รวมถึงยังสามารถกำจัดไนโตรเจนไดออกไซด์ในอากาศได้ถึง 80% นอกจากนี้ เว็บไซต์ข่าวดังกล่าวระบุด้วยว่า หอคอยฟอกอากาศของฮ่องกงยังสามารถจัดการกับไอเสียของรถยนต์ได้ถึง 5.4 ล้านลูกบาศก์เมตร/ชั่วโมง

ทั้งนี้ ระบบการทำงานของหอคอยฟอกอากาศจะเริ่มจากพัดลมขนาดใหญ่ที่ตั้งอยู่ภายในหอคอยจะทำหน้าที่พัดดูดเอาไอเสียเข้าไปในเครื่องยนต์ที่ถูกติดตั้งอยู่ในอาคาร 3 แห่งตามแนวอุโมงค์เพื่อ "ฟอกอากาศ" และอากาศจะวิ่งผ่านแนวตะกอนไฟฟ้าสถิตเพื่อแยกอนุภาคที่เป็นอันตราย จากนั้นจะผ่านเครื่องกรองอีกชั้นเพื่อกำจัดไนโตรเจนไดออกไซด์ที่เป็นมลพิษ และท้ายสุดจะนำอากาศที่บริสุทธิ์คืนสู่ภายนอก

นาย เควิน โล ผู้จัดการโครงการทางหลวง กล่าวกับ South china Morning Post ว่า หอคอยฟอกอากาศนี้จะช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 11,000 ตัน/ปี ซึ่งเทียบเท่ากับการดูดซับอากาศเสียของต้นไม้ได้ถึง 4.8 แสนต้น หรือเทียบได้กับการดูดซับของต้นไม้ในสวน Victoria Parks (สวนสาธารณะที่ใหญ่ที่สุดของฮ่องกง) จำนวน 67 แห่งรวมกัน

อย่างไรก็ตาม เกิดกระแสในฮ่องกงเช่นกันว่า รัฐบาลควรให้มีการนำระบบฟอกอากาศดังกล่าวไปติดตั้งหลายๆ พื้นที่ของฮ่องกงด้วย เพราะมีหลายเขตไม่น้อยที่ประสบปัญหามลพิษ อย่างไรก็ตาม ทางการฮ่องกงต้องใช้เวลาถึง 10 ปี เพื่อสร้างหอคอยฟอกอากาศยักษ์ และมันมีมูลค่าสูงถึง 250 ล้านดอลลาร์ฮ่องกง หรือประมาณ 1,018 ล้านบาท

ทั้งนี้ อากาศที่เป็นพิษในประเทศฮ่องกงนั้น ยังมีอนุภาคขนาดเล็กอย่างฝุ่นละออง PM2.5 เหมือนกับกรุงเทพมหานคร และปริมณฑลที่กำลังประสบปัญหาอยู่เช่นกันด้วยในขณะนี้ และทางการฮ่องกงต้องการแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยทุ่มเงินสร้างหอคอยฟอกอากาศขึ้นมา

ขอบคุณภาพและข้อมูลจาก South china Morning Post