กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ หนุนเกษตรกร ชี้ช่องรวยจาก FTA

by ThaiQuote, 16 มกราคม 2562

นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า ในการลงพื้นที่พบปะเกษตรกรครั้งนี้ได้พบกับเกษตรกรกลุ่มต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มผลไม้สด/แปรรูป (กระท้อนหยีและมะดันแช่อิ่ม) กลุ่มสมุนไพรเกษตรอินทรีย์บ้านดงบัง ซึ่งผลิตพืชสมุนไพรวัตถุดิบส่งให้กับโรงพยาบาลอภัยภูเบศร ทั้งขมิ้นชัน ฟ้าทะลายโจร เพชรสังฆาต หญ้าปักกิ่ง และ กลุ่มไม้ดอกไม้ประดับบ้านดงบัง ที่เพาะปลูกต้นไม้จำหน่ายทั่วประเทศ และตลาดออนไลน์ โดยเฉพาะทุเรียน ขนุน มะขาม โมก ไข่ดาว พวงคราม ทองอุไร เหล่านี้ถือเป็นกลุ่มสินค้าเกษตรที่มีโอกาสเติบโตทางธุรกิจและส่งออก โดยการเปิดเสรีทางการค้าของไทยจะช่วยเกษตรกรไทยให้สามารถขยายตลาดส่งออกได้ เช่น พืชสมุนไพรสดและแห้งรวมถึงขมิ้นชัน ไพล กระชายดำ ไปญี่ปุ่น จีน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สารสกัดจากพืชรวมขมิ้นชัน ใบบัวบก ไปจีน ญี่ปุ่น อินเดีย ผลไม้สด/แห้งไปญี่ปุ่น อินเดีย ตลอดจนไม้ดอกไม้ประดับไปจีน เป็นต้น “โดยประเทศปลายทางส่วนใหญ่ได้มีการลดกำแพงภาษีศุลกากรนำเข้าจากประเทศไทยแล้วภายใต้ FTA นอกจากนี้ ไทยยังให้ความสำคัญกับการสนับสนุนงานวิจัยในการยืดอายุผลไม้แปรรูป และการหาปริมาณสารสรรพคุณในพืชสมุนไพรเฉพาะถิ่น รวมถึงการพัฒนาต่อยอดการแปรรูปผลไม้และสมุนไพรในรูปแบบต่างๆ เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้า รักษาฐานการผลิตสินค้าเกษตร และสร้างงานสร้างรายได้ให้กับชุมชนอีกด้วย” นางอรมน กล่าว นอกเหนือจากการลงพื้นที่พบปะเกษตรกรภาคตะวันออกครั้งนี้ กรมเจรจาธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ ยังได้มีการจัดเสวนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง “ช่องทางรวยของสินค้าเกษตรจาก FTA” และ “ทำอย่างไรให้สินค้าเกษตรสู่ตลาดต่างประเทศ” ณ โรงแรมแคนทารี 304 อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ให้กับเกษตรกรกว่า 120 คน จากปราจีนบุรี นครนายก จันทบุรี ตราด และสระแก้ว ด้าน น.ส.บุณิกา แจ่มใส่ ผู้อำนวยการวำนักพัฒนาความพร้อมทางการค้า กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ กล่าวระหว่างสัมมนาว่า กรมฯ มีหน้าที่โดยตรงในการที่จะเจรจาด้านการค้าระหว่างประเทศ แต่ก่อนจะนำผลิตภัณฑ์สินค้าทางการเกษตรไปเสนอหรือเจรจานั้น ต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพตามตรงตามความต้องการของตลาดนั้นๆ และที่สำคัญต้องเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานของอย่างผลิตภัณฑ์ด้านอาหารต้องการรับรองจาก (อย.) ซึ่งผู้ประกอบการที่สนใจจริงสามารถขอคำปรึกษาได้จากทางภาครัฐอย่างสำนักงานพาณิชย์จังหวัด ถึงแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตรงตามความต้องการของตลาดต่างประเทศ เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเรื่องเขตการค้าเสรีการใช้ประโยชน์จากความตกลง FTA กฎระเบียบทางการค้า นำไปสู่การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้า โดยเน้นสินค้าที่มีศักยภาพในพื้นที่ พร้อมทั้งในให้เกษตรกรกลุ่มตัวอย่างนำสินค้าทางการเกษตรในพื้นที่ภาคตะวันออกมาแสดงและสำหน่ายให้กับผู้ร่วมงานในครั้งนี้ นอกจากนี้ ยังได้เปิดเวที่ให้เกษตรกรได้นำสินค้าของตนให้วิทยากรได้วิเคราะห์ถึงจุดอ่อนจุดแข็งในแง่มุมต่างๆ เพื่อนำกลับไปพัฒนาสู้การส่งออกสินค้า รวมถึงแลกเปลี่ยน ข้อมูล ความรู้ และประสบการณ์ด้านการส่งออกสินค้าเกษตรระหว่างวิทยากร ผู้ประกอบการ และเกษตรกรอีกด้วย ปัจจุบัน โครงการการเพิ่มศักยภาพเกษตรกรในยุคการค้าเสรีจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 และจะมีการลงพื้นที่ให้ความรู้แก่เกษตรกรอีก 4 ครั้ง ทุกภูมิภาคทั่วประเทศ “กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เชื่อมั่นว่า การผลึกกำลังร่วมกับสภาเกษตรกรแห่งชาติในครั้งนี้   จะเป็นอีกหนึ่งกลไกสำคัญในการช่วยสร้างมูลค่าและยกระดับสินค้าเกษตรในชุมชนให้มีคุณภาพได้มาตรฐานสากลเพื่อให้สามารถเข้าถึงช่องทางการจำหน่ายทั้งออนไลน์และออฟไลน์ และการเข้าสู่ตลาดอาเซียน และที่สำคัญยิ่งคือ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันทางการค้าให้กับเกษตรกรโดยใช้ประโยชน์จากความตกลงการค้าเสรีซึ่งจะทำให้เกษตรกรเข้าสู่ตลาดต่างประเทศได้อย่างเข้มแข็งมั่นคงในระยะยาว” นางอรมน กล่าวทิ้งท้าย   ข่าวอื่นที่น่าสนใจ  https://www.thaiquote.org/content/61458