เมื่อวันที่ 16 ม.ค. เพจ "PAQ - โรงพยาบาลสัตว์ เพ็ทแอนด์อะควอติก Pet & Aquatic Animal Hospital" ได้โพสต์ข้อความ โดยเล่าว่าลูกค้ารายหนึ่งได้นำกระต่ายที่เลี้ยงไว้บ้าน แต้เนื่องจากน้องเป็นโรคทางเดินหายใจอยู่แล้วจึงทำให้มีอาการมากขึ้น คือ จาม จมูกบวมแดง พร้อมกับเล่าให้ฟังว่าทั้งเจ้าของน้องกระต่าย และตัวหมอเองต่างก็เริ่มมีอาการแพ้จากฝุ่นละอองพิษนี้แล้ว และแนะนำว่าไม่ควรพาออกมาเดินภายนอกและควรนำสัตว์ไว้ภายในบ้านก่อน

นอกจากนี้หมอเจ้าของเพจยังได้ออกความเห็นต่ออปัญหามลพิษทางอากาศในช่วงนี้ว่า “ผมหวังว่าเจ้าหน้าที่จะจริงจังกับปัญหา PM 2.5 มากกว่านี้ คือวันนี้เห็นออกข่าวว่าอย่าวิตกเรื่องเล็ก คือจะรอให้มันหนักกว่านี้ค่อยจริงจังหรือครับ

เกาหลี รถเก่าก่อน 2005ห้ามวิ่ง รถใช้ได้ทะเบียนคู่คี่ ข้าราชการห้ามขับรถส่วนตัว ปิดที่จอดรถสาธารณะ

จีนห้ามปิ้งย่าง เอาโดรนพ่นสารกำจัดหมอก ติดสปริงเกอยักษ์ มีแอพเช็คสภาพอากาศ ปรับรถที่ตรวจไม่ผ่านค่าไอเสียจริงจัง วิ่งสลับวันคู่คี่ ขึ้นค่าน้ำมัน ซื้อรถเก่าไปทำลาย หนุนรถพลังงานไฟฟ้า

หันมองเรา แท็กซี่จอดรอคนยาวเบรคทีเกิดฝุ่นทีเรียกก็ไม่ไป รถเมล์ควันเยอะแต่คนรายได้น้อยก็ต้องทนใช้ สิบล้อเก่าๆบานเลยของใครก็ของรัฐทั้งนั้น

กฎหมายสิ่งแวดล้อมมันอ่อนแอ สร้างรถไฟฟ้าแต่ก็เห็นฝุ่นเต็มสถานีที่สร้าง แค่ง่ายๆ โรงงานห้องแถวเล็กๆ ส่งเสียงดังตัดเหล็ก พ่นสีฝุ่นบานเยอะแยะ ก็อย่าหวังกับ รง.อุตสาหกรรมขนาดใหญ่เลยครับ

สุดท้ายผมก็ไปคว้าหน้ากากอนามัยแล้วก็ได้แต่สวดมนต์ให้มีพายุปลาบึกมันมากรุงเทพทีเถอะ เพิ่งสวดไล่ไปนี่ครับ”