พณ.สบช่องจับคู่ธุรกิจไทย-เทศ คาดเงินสะพัดกว่าพันล้านบาท/ปี

by ThaiQuote, 15 กุมภาพันธ์ 2562

วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2562 - น.ส.ชุติมา บุณยประภัศร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ จะจัดกิจกรรมจับคู่ธุรกิจครั้งใหญ่แห่งปี ภายใต้โครงการจัดคณะผู้แทนการค้าสินค้าอุปโภคบริโภคมาเจรจาการค้าในไทย (Thailand’s Sourcing Forum) ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2562 ที่โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ แอท เซ็นทรัลพลาซา ลาดพร้าว กรุงเทพฯ โดยมีสินค้าเป้าหมาย คือ สินค้าอุปโภคบริโภค อาหาร แฟชั่น เกษตรออร์แกนิค สถาบันด้านการศึกษา แฟรนไชส์ร้านอาหาร และผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีผู้ซื้อทั้งออฟไลน์ และออนไลน์รายใหญ่จากหลายประเทศ ทั้งจากอาเซียน เอเชียตะวันออก โอเชียเนีย เอเชียใต้ ตะวันออกกลาง และแอฟริกา รวมกว่า 148 บริษัท และผู้ผลิต ผู้ส่งออกไทย อีกกว่า 500 บริษัท เข้าร่วม คาดว่าจะมีการจับคู่ธุรกิจไม่น้อยกว่า 600 คู่ เกิดมูลค่าซื้อขายภายในงานมากกว่า 200 ล้านบาท และจะต่อยอดได้ไม่น้อยกว่า 1,750 ล้านบาทภายใน 1 ปี
ทั้งนี้ ยังได้สั่งการให้สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) ศึกษาโอกาส และลู่ทางขยายตลาดของไทยในสหรัฐอเมริกา ที่ขณะนี้มีสภาพอากาศที่เลวร้าย โดยหลายพื้นที่อากาศหนาวเย็นอย่างหนัก การคมนาคมขนส่งชะงัก ประชาชนเลี่ยงการออกจากบ้าน บางพื้นที่มีผู้เสียชีวิต และสินค้าเกษตรเสียหาย จึงคาดว่าสหรัฐฯ อาจนำเข้าสินค้าเพิ่มขึ้น จึงเป็นช่องทางสำหรับผู้ส่งออกสินค้าเกษตรและอาหารของไทย ที่จะเพิ่มการส่งออกได้
"ส่วนปัญหาเงินบาทแข็งค่า ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำลังดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะค่าเงินบาทมีผลทำให้ราคาสินค้าของไทยผันผวน และธปท.ทราบดี จึงน่าจะดูแลไม่ให้ค่าเงินบาทของไทยแข็งค่ากว่าค่าเงินของคู่แข่งมากเกินไป เพื่อให้ภาคการส่งออกของไทยแข่งขันได้ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ ได้หารือเรื่องนี้กับธปท.อย่างใกล้ชิดมาโดยตลอด เพราะหน้าที่ของกระทรวงฯ ขณะนี้ คือ เร่งหาตลาดส่งออกใหม่ๆ สำหรับสินค้าและบริการไทย และจัดกิจกรรมกระตุ้นการส่งออก เพื่อให้มูลค่าการส่งออกไทยในปีนี้ขยายตัวได้ตามเป้าหมาย 8% จากปี 2561" น.ส.ชุติมา กล่าว
ด้าน น.ส.บรรจงจิตต์ อังศุสิงห์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กล่าวว่า มีแผนจะทำโครงการจัดคณะผู้แทนการค้าสินค้าอุปโภคบริโภคมาเจรจาการค้าในไทย 3 ครั้งในปีนี้ เพื่อเป็นกิจกรรมเสริมในการขยายโอกาสการส่งออกของไทย เพิ่มเติมจากกิจกรรมผลักดันการส่งออกที่กรมฯ ดำเนินการอยู่แล้ว และยังจะจัดคณะผู้แทนการค้าของไทยไปเจาะตลาดประเทศต่างๆ โดยเน้นประเทศเป้าหมาย ที่เป็นตลาดใหม่ๆ อย่างจีน และอินเดีย จะเจาะเป็นรายเมือง รายมณฑล รายรัฐให้มากขึ้น โดยเฉพาะในจุดที่สินค้าไทยยังเข้าไปน้อย หรือยังเข้าไปไม่ถึง รวมถึงสร้างผู้ส่งออกรายใหม่ในสินค้าใหม่ๆ เพื่อสร้างโอกาสขยายตลาดของไทย โดยจนถึงขณะนี้ ยังยืนยันเป้าหมายการส่งออกไทยในปีนี้ที่ 8%
ขณะที่ น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กล่าวว่า จากการศึกษาของสนค.พบว่า สินค้าไทยที่มีโอกาสเจาะตลาดสหรัฐฯ ในช่วงที่มีสภาพอากาศหนาวเย็น ได้แก่ อาหารสดและแช่แข็ง และอาหารกึ่งสำเร็จรูป เช่น อาหารทะเลกระป๋อง ผักและผลไม้กระป๋อง ผลิตภัณฑ์ข้าวสาลี เป็นต้น เพราะคนสหรัฐฯเลี่ยงการออกไปนอกบ้าน จึงต้องตุนอาหารไว้มากขึ้น และยังงคาดว่า สินค้าเกษตรที่ใช้เป็นอาหารสัตว์ จะส่งออกได้มากขึ้น เช่น ข้าวโพด และถั่วเหลือง

Tag :