นอกจากนี้ทางกระทรวงฯยังได้ออกมาตรการระยะเร่งด่วน เพื่อควบคุมและเพิ่มความปลอดภัยในการเดินรถตู้ ซึ่งประกอบด้วย 1.การติดตั้งระบบติดตามการเดินรถผ่านดาวเทียม (จีพีเอส) ซึ่งรถตู้ทุกคันจะต้องทำการติดตั้งระบบจีพีเอสให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 31 มีนาคม 2560 จากเดิมที่กำหนดสิ้นปี 2560 เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลการเดินรถไปยังกรมการขนส่งทางบก ในการติดตามและควบคุมการขับขี่ให้อยู่ในความเร็วที่กำหนด 2.การติดตามสภาพความพร้อมของรถตู้ โดยกรมการขนส่งทางบกจะจัดตั้งหน่วยเคลื่อนที่ในการตรวจเช็คสภาพความพร้อมของรถตู้ และสภาพร่างกายของคนขับ หากรถหรือคนขับไม่พร้อม เจ้าหน้าที่มีสิทธิพักการเดินรถทันที ทั้งนี้ รถตู้ทุกคันทั่วประเทศจะต้องเข้ามาจอด ณ จุดจอดในสถานีขนส่งทั้งหมด ไม่ให้มีการไปวิ่งรับคนนอกสถานีขนส่งอีกภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2560

             นายอาคมยังกล่าวต่อว่า 3.การจำกัดชั่วโมงของผู้ขับขี่รถตู้ จะต้องไม่เกิน 8 ชั่วโมง (ชม.) ต่อการพัก 10 ชั่วโมง ต่อไปผู้ขับขี่รถตู้จะ ต้องมีสมุดบันทึกชั่วโมงการขับขี่ หากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบว่ามีการขับขี่เกินชั่วโมง ที่กำหนด มีสิทธิเปลี่ยนตัวผู้ขับขี่ได้ทันที 4.การควบคุมผู้ประกอบการรถตู้ จะต้องมีความเข้มข้นและเข้มงวดมากขึ้น ต่อไปต้องกำหนดโทษผู้ประกอบการรถตู้ด้วย มาตรการระยะสั้นดังกล่าวจะต้องเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จก่อนเทศกาลสงกรานต์ เพื่อสร้างความปลอดภัยให้ประชาชนจำนวนมากที่จะเดินทางกลับ

          ส่วนมาตรการในระยะยาว กระทรวงฯจะทำการพัฒนาระบบการขับขี่และการเดินรถสาธารณะทั้งระบบ โดยในส่วนของใบอนุญาตเดินรถตู้ที่จะเริ่มทยอยหมดอายุตั้งแต่ปี 2562 และจะครบทุกคันในปี 2564 นั้น กระทรวงฯมีแผนที่จะไม่ต่อใบอนุญาตรถตู้ดังกล่าว ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ในระหว่างการศึกษาให้มีการนำรถโดยสารสาธารณะขนาดกลาง (ไมโครบัส) จำนวน 20 ที่นั่ง มาใช้แทนรถตู้ เนื่องจากมีขนาดใหญ่กว่าโดยรัฐบาลจะมีมาตรการทางการเงินและการคลังออกมาสนับสนุน เพื่อให้ผู้ประกอบการปรับเปลี่ยนมาใช้รถไมโครบัสมากขึ้น ทั้งนี้ ในอนาคตระบบขนส่งสาธารณะในประเทศไทยจะดีขึ้น โดยเฉพาะระบบรางต่างๆ ที่จะครอบคลุมในต่างจังหวัดมากขึ้น ต่อไปการเดินทางอาจใช้ระบบรางเป็นหลักและเชื่อมต่อระบบขนส่งอื่นๆ โดยไม่จำเป็นต้องใช้รถส่วนตัว หรือระบบขนส่งที่มีความเสี่ยง ซึ่งจะช่วยลดอุบัติเหตุทางถนนได้ดีมากยิ่งขึ้น

          ขณะที่ พล.ต.ท.อำนวย นิ่มมะโน รองผู้ว่าฯกทม. กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการรณรงค์ให้รถยนต์ทุกคันในพื้นที่กรุงเทพฯติดกล้องวงจรปิดว่า ขณะนี้ได้ส่งเรื่องให้นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมพิจารณาโครงการ และเพื่อให้เกิดการรณรงค์ในรถโดยสารประจำทางขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) และรถร่วมเอกชนของบริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) ด้วย โดยภายในปีนี้จะให้เกิดการนำร่องในรถแท็กซี่ หลังจากนั้นจะนำไปสู่ภาคบังคับต่อไป

          พล.ต.ท.อำนวยกล่าวว่า โครงการนี้เป็นการรักษาความปลอดภัยส่วนบุคคล สร้างวินัยจราจร รวมถึงป้องกันอาชญากรรม ซึ่งจะต้องปฏิรูปร่วมกับบริษัทประกันภัย

          “จากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมรถตู้ประสานงากับรถปิกอัพที่ อ.บ้านบึง จ.ชลบุรี ผมเห็นควรว่าอยากให้มีการติดกล้องหน้ารถตู้เพื่อเป็นการควบคุมวินัยจราจรของทั้งผู้ขับ และผู้คนที่ร่วมใช้พื้นที่ใช้ท้องถนนด้วย ส่วนรถที่ติดจะได้รับการลดเบี้ยประกันภัยนั้น ยังไม่สรุปว่าจะลดอย่างไร" พล.ต.ท.อำนวยกล่าว