ภาคที่กลับมาโดดเด่นมากกลับได้แก่การส่งออก ซึ่งตัวเลขเดือนพฤศจิกายนในรูปของเงินเหรียญสหรัฐฯสูงเกือบแตะ 1.9 หมื่นล้าน เติบโตกว่า 10 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2558 และโตขึ้นจากเดือนก่อนหน้าชนิดหักปากกาเซียน

ส่วนตัวเลขการส่งออกเดือนธันวาคมส่งท้ายปี 2559 ต้องรอกระทรวงพาณิชย์แถลงอย่างเป็นทางการช่วงปลายมกราคมนี้ แต่สภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือซึ่งรู้ตัวเลขจำนวนตู้คอนเทนเนอร์สามารถประมาณการณ์ได้ก่อนว่า การส่งออกของไทยเดือนธันวาคมก็จะยังเป็นบวกอีกเดือนหนึ่ง โดยมูลค่าคาดว่าจะแตะระดับ 1.8 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ ทั้งๆที่ปกติตัวเลขการค้าต่างประเทศเดือนธันวาคมซึ่งติดวันหยุดทั้งเทศกาลคริสต์มาสและส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่จะซบเซามากที่สุดในไตรมาสสุดท้ายของปี แต่ปี 2559 น่าจะแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญ

ดังนั้น ล่าสุดนี้ทั้งรัฐและเอกชนตลอดจนสำนักวิจัยเศรษฐกิจทั้งหลายก็เลยปรับตัวเลขการส่งออกปี 2559 กันใหม่โดยพร้อมเพรียง

จากถอดใจยอมรับตัวเลขติดลบ ทั้งๆที่ลุ้นเติบโตได้ 3 เปอร์เซ็นต์มาครึ่งค่อนปี มาจบหักมุมโดยไปๆมาๆสามารถตีตื้นได้ใน 2 เดือนสุดท้ายของปี เผลอๆภาคส่งออกปีนี้อาจจะเติบโตได้พอสมควร โดยสภาผู้ส่งออกสินค้าทางเรือที่ฟันธงว่าจะติดลบมาตั้งแต่ผ่านครึ่งหลังของปี คาดการณ์ล่าสุดนี้ว่าน่าจะกลับมาโตเป็นบวกได้ 0.2 เปอร์เซ็นต์

`อการค้าฯและสมาคมธนาคารไทย ประชุมคณะกรรมการกกร.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ตัดสินใจปรับประมาณการณ์การส่งออกปี 2560 ใหม่ จากที่คาดว่าจะบวก 0-2 เปอร์เซ็นต์ ก็ปรับเป็นบวก 1-3 เปอร์เซ็นต์ สรุปว่าที่เคยมองเลวร้ายสุดว่าอาจจะไม่บวกไม่ลบคือเท่ากับ 0 เปอร์เซ็นต์ก็ปรับมุมมองใหม่เป็นอย่างน้อยที่สุดต้องโตได้ 1 เปอร์เซ็นต์และอาจจะถึง 3 เปอร์เซ็นต์ถ้าปัจจัยทุกๆด้านเป็นใจ

แน่นอนว่า เมื่อภาคส่งออกกระเตื้อง โอกาสที่ GDP ของไทยจะโตแตะระดับ 4 เปอร์เซ็นต์ในปี 2560 ก็คงจะไม่ใช่ฝันที่ไกลเกินจริง

ปัจจัยสำคัญที่ทำให้ภาคส่งออกของไทย เกือบจะพลิกหน้ามือเป็นหลังมือในช่วงเดือนพฤศจิกายนธันวาคมและอาจจะส่งผลข้ามปีมาถึงเดือนมกราคมนี้ด้วยนั้น เกิดจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวสูงขึ้น เริ่มตั้งแต่ต้นเดือนพฤศจิกายนเมื่อมีข่าวว่าโอเปคซึ่งเป็นกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดของโลกประกาศจะพร้อมใจกันลดกำลังการผลิตลง ราคาน้ำมันจึงปรับตัวขึ้นรับข่าวดังกล่าว และราคายิ่งสูงทะลุ 50 เหรียญสหรัฐฯต่อบาเรล เมื่อโอเปคบรรลุข้อตกลงกันได้จริงเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน2559 และขยับขึ้นไม่หยุดเมื่อกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันนอกโอเปคนำโดยรัสเซียก็ยอมตกลงลดกำลังการผลิตด้วย โดยแผนลดกำลังการผลิตจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่มกราคมนี้เป็นต้นไป

ราคาน้ำมันที่ปรับตัวสูงขึ้นโดยในเดือนพฤศจิกายนและสัปดาห์แรกของธันวาคม 2559 ซึ่งสูงขึ้นกว่า 40 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้ราคากลุ่มสินค้าโภคภัณฑ์ปรับสูงขึ้นตาม รวมทั้งยางพาราของไทยสร้างผลดีต่อตลาดยางพาราของไทยอย่างมาก

นอกจากนี้ยังเกิดการนำเข้าและส่งออกสินค้ากันอย่างคึกคัก เนื่องจากกังวลเรื่องต้นทุนการขนส่งที่จะแพงขึ้นจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมันไตรมาสสุดท้ายของปีที่ปกติก็จะเป็นไตรมาสที่ไม่หวือหวา ปีที่ผ่านมาจึงปรากฏว่าน่าจะเป็นไตรมาสที่คึกคักมาก ๆ

สำหรับปีนี้ปัจจัยเรื่องราคาน้ำมันเชื่อว่าจะเริ่มนิ่งขึ้น ถ้ากลุ่มโอเปคและรัสเซียปฏิบัติตามข้อตกลงลดกำลังการผลิตราคาก็คงจะไม่ต่ำกว่า 50 เหรียญ แต่จะไม่ทะลุ 60 เหรียญ ด้วยปัจจัยที่กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันจากชั้นหินหรือที่เรียกว่า”เชลล์ออยล์”ของสหรัฐฯจะกลับมาผลิตกันมากขึ้น(ต้นทุนกลุ่มนี้ราคาต้องสูงเกิน 50 เหรียญจึงจะคุ้มค่าต่อการสูบน้ำมัน) จะมีผลทำให้การลดอุปทานของโอเปคกับรัสเซียไม่ประสบผลสำเร็จราคาน้ำมันก็น่าจะเคลื่อนไหวในระดับ 50-60 เหรียญต่อบาเรล

แต่ที่จะต้องจับตาอย่างมากก็คือผู้นำสหรัฐฯ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะเข้ารับตำแหน่งในช่วงปลายเดือนมกราคมนี้

เรื่องแรก ที่ต้องจับตาก็คือมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการคลังที่ประกาศไว้ตอนหาเสียง เช่นการลดภาษี เรื่องนี้ทางผู้บริหารธนาคารกลางของสหรัฐฯบอกว่ามีความกังวลมากเพราะมาตรการด้านการเงินที่ธนาคารกลางได้อัดฉีดเงินไว้มากนั้นก็ยังไม่ได้ดูดซับ ถ้ามีมาตรการการคลังเพิ่มขึ้นอีกก็ห่วงว่าเงินเฟ้ออาจจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ก็อาจจะต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยมากกว่าที่วางแผนไว้ ซึ่งก็จะส่งผลให้เกิดความผันผวนของเรื่องค่าเงิน

เรื่องที่สอง การค้าการลงทุนระหว่างประเทศ นโยบายอเมริกามาก่อนหรือ อเมริกาเฟิร์ส จะเป็นจริงมากน้อยแค่ไหน ไทยอาจจะได้รับผลกระทบโดยตรงไม่มาก แต่ทางอ้อมที่จะกระทบมาจากจีนกับญี่ปุ่นจะเป็นอย่างไรก็ต้องติดตามกันต่อไป

ปีที่แล้วทั้งกรณีอังกฤษขอออกจากสหภาพยุโรป และการได้ทรัมป์เป็นผู้นำสหรัฐฯถูกระบุว่าเป็นการหมุนไปด้านขวาครั้งใหญ่ของโลก และผลก็จะเริ่มเด่นชัดตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไปว่า ยุคตัวใครตัวมัน โลกจะตอบรับอย่างไรบ้าง


p.p1 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 11.0px Helvetica; -webkit-text-stroke: #000000} p.p2 {margin: 0.0px 0.0px 0.0px 0.0px; font: 11.0px Helvetica; -webkit-text-stroke: #000000; min-height: 13.0px} span.s1 {font-kerning: none}

 โดย ไพศาล มังกรไชยา