พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี และนายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และตัวแทนชุมชนต่างๆ จากทั่วประเทศ เข้าร่วมพิธี กดปุ่มเปิดปฏิบัติการ เพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากตามแนวทางประชารัฐ โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของเศรษฐกิจฐานราก และกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก สนับสนุนมาตรการส่งเสริมการเป็นอยู่ระดับหมู่บ้านในวงเงินสินเชื่อ 6 หมื่นล้านบาท ซึ่งได้ยกเว้นดอกเบี้ยในระยะเวลา 2 ปี และด้วยกลไกของกองทุนหมู่บ้านสามารถขับเคลื่อน ให้บรรลุเป้าหมาย มีกองทุนหมู่บ้ายรวม 50,050 กองทุน ได้รับประโยชน์ตามนโยบายกว่า 3 ล้านครัวเรือน และยังมีการขยาย ตลาดประชารัฐ รองรับอย่างต่อเนื่อง

                ล่าสุดมีมติเห็นชอบหลักการโครงการเพิ่มความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก ตามแนวทางประชารัฐ โดยอนุมัติงบประมาณ ในกรอบวงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท เพื่อเพิ่มความเข้มแข็ง ของเศรษฐกิจฐานราก ทั้งยังเป็นการช่วยกระตุ้น เศรษฐกิจระดับฐานราก ให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง จึงสนับสนุนเงินกองทุน ให้กับกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมือง จำนวน 79,566 กองทุน วงเงินไม่เกิน กองทุนละ 5 แสนบาท เพื่อลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ในหมู่บ้าน ชุมชน

                โดยโครงการที่จะจัดขึ้นนั้น จะต้องยึดหลักการ ของประชารัฐ การมีส่วนร่วมจากภาคประชาชน  ภาคเอกชน และภาคราชการ ที่มุ่งเน้นการผลิต แปรรูป อย่างครบวงจร มีระบบการติดตามประเมินผล ที่มีประสิทธิภาพ

                ด้านดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า “กรอบวงเงิน 3.5 หมื่นล้านบาท สนับสนุนเงินทุนให้กับกองทุนหมู่บ้าน และชุมชนเมืองเพื่อลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน ในหมู่บ้าน ชุมชน เห็นว่าเป็นประโยชน์ ในการส่งเสริมศักยภาพ สำหรับการประกอบอาชีพ และความเป็นอยู่ในหมู่บ้าน เพื่อกระจายการลงทุนไปในพื้นที่ต่างๆ ในต่างจังหวัด และผลักดันให้เกิดการพัฒนาในท้องถิ่น และภูมิภาคอย่างทั่วถึง จึงได้กำหนดคุณสมบัติ และหลักเกณฑ์ ของกองทุนหมู่บ้าน ที่ต้องการรับการจัดสรร จะต้องเป็นกองทุนหมู่บ้าน หรือชุมชนเมือง ที่จดทะเบียนนิติบุคคล และมีมติที่ประชุมสมาชิกกองทุน ที่ต้องเข้าร่วมประชุม ไม่น้อยกว่า กึ่งหนึ่งของสมาชิกทั้งหมด และเสียงข้างมากเห็นชอบ

                ถัดมาเป็นกองทุนหมู่บ้าน หรือชุมชน ที่คณะกรรมการมีการบริหารจัดการที่ดี โปร่งใส  ตรวจสอบได้ และเป็นกองทุนหมู่บ้าน หรือชุมชนเมือง ที่มีแผนการพัฒนากองทุน และสุดท้าย เป็นกองทุนหมู่บ้าน หรือชุมชนเมือง ที่ได้รับการเพิ่มทุน หรือการฟื้นฟู

                อย่างไรก็ตาม การเปิดปฏิบัติการ โครงการเพิ่มความเข้มแข็ง ของเศรษฐกิจฐานราก ตามแนวทางประชารัฐในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างการมีส่วนร่วม จากทุกภาคส่วน ซึ่งจะช่วยสนับสนุน การดำเนินงานในหมู่บ้าน และชุมชน ให้ประสบความสำเร็จ อย่างมีประสิทธิภาพ