เตือน 22 จ.ภาคกลาง แล้งน้ำทำเกษตร

by ThaiQuote, 25 กุมภาพันธ์ 2559

      ดังนั้นจะมีผลกระทบต่อการใช้น้ำในภาคเกษตรของ22 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยาได้แก่ ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง และสิงห์บุรี ฯลฯ  ที่มีการปลูกข้าวนาปรังอายุของข้าวประมาณ 8 สัปดาห์ เหลือประมาณ 3 แสนไร่ จากพื้นที่ปลูกข้าวที่เหลือจากการเก็บเกี่ยวทั้งหมด 1.73 ล้านไร่ ซึ่งยังต้องมีการใช้น้ำในการปลูกข้าวอยู่

      ทั้งนี้เมื่อปลายปีที่ผ่านมา กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมส่งเสริมการเกษตรได้ออกมาตรการ ตามนโยบายของรัฐบาล ในการให้ความรู้เรื่องและเตรียมตัวรับมือภัยแล้งที่จะมีผลกระทบต่อภาคการเกษตร และการเตรียมการช่วยเหลือ รวมทั้งวิธีการสร้างอาชีพและธุรกิจเพื่อรองรับหากไม่สามารถทำอาชีพการเกษตรในฤดูแล้งได้

     “ขณะนี้พื้นที่ปลูกข้าวนาปรัง 22 จังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา ถือว่าเป็นพื้นที่เสี่ยงที่จะเกิดความเสียหายต่อผลผลิตในการเพาะปลูก เนื่องจากปริมาณน้ำในเขื่อนที่เหลือน้อย ที่ผ่านมากรมส่งเสริมการเกษตรได้ให้คำแนะนำในการเพาะปลูกพืชใช้น้ำน้อยแก่เกษตรกร แต่ยังคงมีเกษตรกรบางส่วนทำนาปรังในฤดูนี้อยู่  ซึ่งคาดว่าน้ำที่เคยได้รับจากเขื่อนในปีนี้อาจมีปริมาณที่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา”

       ด้านนายเลอศักดิ์  ริ้วตระกูลไพบูลย์ อธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร กล่าวว่า  ขณะนี้กรมฝนหลวงและการบินเกษตร ได้เตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์เหตุภัยแล้ง ด้วยหน่วยเคลื่อนที่เร็วเพื่อช่วยเหลือพื้นที่เกษตรกรรมในลุ่มน้ำเจ้าพระยา  ได้แก่หน่วยปฏิบัติการฝนหลวงจ.นครสวรรค์ และกาญจนบุรี และกำหนดเปิดหน่วยปฏิบัติการณ์หน่วยอื่นๆ ทั่วประเทศ ตามแผน อีกใน วันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2559 เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างเก็บน้ำต่างๆ เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับพื้นที่ป่าและพื้นที่เกษตรกรรมทั่วประเทศ

    อย่างไรก็ตาม ทางกรมฯ ได้เน้นการปฏิบัติการฝนหลวงในพื้นที่เขื่อนป่าสัก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ใกล้เคียงกับกรุงเทพมหานคร และจังหวัดลุ่มน้ำเจ้าพระยา เพื่อเฝ้าระวังหากเกิดภาวะฉุกเฉินจะสามารถระบายน้ำช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวได้เร็วกว่าเขื่อนอื่นๆ