APERC ระบุปี 2040 ไทยใช้พลังงานเพิ่ม 86 %

by ThaiQuote, 5 เมษายน 2559

จากผลการศึกษาพบว่าอนาคตประเทศไทยยังมีความต้องการใช้พลังงานเพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้การจัดหาพลังงานในอนาคต อาจต้องนำเข้าพลังงานในปริมาณสูงขึ้นตามไปด้วย  ซึ่ง APERC ได้ทำการศึกษาเพื่อช่วยแก้ปัญหาด้านการใช้พลังงานของไทย  โดยได้จัดทำแผนทางเลือกในการผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงหลัก 3 ประเภท เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงาน ด้วยการกระจายเชื้อเพลิง ควบคู่กับการลดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2)  ได้แก่  การใช้เทคโนโลยีถ่านหินสะอาด การใช้ก๊าซธรรมชาติ และการใช้พลังงานนิวเคลียร์  ซึ่งแนวทางดังกล่าวเป็นการเพิ่มความหลากหลายของเชื้อเพลิง และมีความมั่นคงด้านพลังงาน หากประเทศไทย ดำเนินการตามแผนทางเลือก ตามที่ศูนย์วิจัยพลังงานเสนอ ก็จะสามารถลดการเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์(CO2)  และเพิ่มความมั่นคงด้านพลังงานอีกด้วย

           ทั้งนี้มีการประมาณการณ์ว่าในอีก 20-30 ปีข้างหน้า  ไทยจะมีการใช้พลังงานเพิ่มขึ้น 86 % ในปี 2040  ขณะที่แหล่งผลิตพลังงานภายในประเทศจะมีปริมาณลดลง และจะมีการนำเข้าพลังงานเพิ่มขึ้นจาก 42% เป็น 78%  จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นได้ว่าในปัจจุบันและในอนาคตประเทศไทยยังคงต้องดำเนินมาตรการอนุรักษ์พลังงานอย่างต่อเนื่อง โดยของประเทศไทยได้ตั้งเป้าหมายลดการใช้พลังงานลง 30% ตามแผนอนุรักษ์พลังงาน และตั้งเป้าหมายเพิ่มการใช้พลังงานทดแทนจาก 15% เป็น 30%  ตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก  โดยการประหยัดพลังงานในภาคขนส่ง ได้แก่ การส่งเสริมการใช้รถยนต์ประสิทธิภาพสูง การเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้า และเชื้อเพลิงภาคขนส่งเป็นพลังงานทดแทน แทนน้ำมันเชื้อเพลิง   รวมทั้งการใช้ขนส่งมวลชนสาธารณะ อาทิ รถไฟฟ้า รถไฟความเร็วสูง และรถสาธารณะรูปแบบอื่นๆ ที่กำลังพัฒนา ฯลฯ โดยแนวทางต่างๆจะช่วยทำให้การใช้พลังงานภาคขนส่งลดลงได้ด้วย

                  ดร. เจมส์ เคนดัล รองประธานศูนย์วิจัยพลังงานเอเซียแปซิฟิก กล่าวว่า   ความต้องการใช้พลังงานในภูมิภาคเอเซียเพิ่มสูงขึ้น โดยจีนเป็นประเทศที่มีความต้องการใช้พลังงานสูงสุด  รองลงมาคือ ภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ ทั้งนี้เนื่องจากประเทศในภูมิภาคอาเซียน  การเติบโตค่อนข้างสูงตามการขยายตัวทางเศรษฐกิจ  ส่งผลให้มีความต้องการใช้พลังงานเพิ่มมากขึ้น  ทำให้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาอาเซียนเปลี่ยนจากผู้ส่งออกพลังงาน  ปัจจุบันต้องนำเข้า ทำให้นโยบายในอาเซียนหลายประเทศต้องเร่งรัดการประหยัดพลังงาน     การใช้รถยนต์ และรถสาธารณะที่มีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น  คาดการณ์ว่าในอนาคตภูมิภาคอาเซียนจะกลายเป็นศูนย์กลางความต้องการพลังงาน รวมถึงเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ด้านพลังงานด้วย 

ที่มา : thaiquote