สำหรับแผนการผลิตและการตลาดข้าวครบวงจรปีนี้ โดยกระทรวงพาณิชย์กำหนดความต้องการของตลาด ปริมาณ 25.01 ล้านตันข้าวเปลือก ซึ่งกระทรวงเกษตรฯกำหนดผลผลิตไว้ที่ 27.17 ล้านตันข้าวเปลือก เผื่อไว้กรณีประสบภัยธรรมชาติ การระบาดแมลงศัตรูข้าว

          "ปริมาณผลผลิตวางไว้ปีนี้เผื่อเหลือเผื่อขาด แบ่งเป็นฤดูนาปี ปริมาณ 23.29 ล้านตันข้าวเปลือก เป็นพื้นที่ 55.81 ล้านไร่ และฤดูนาปรัง ปริมาณ 3.88 ล้านตัน ข้าวเปลือก เป็นพื้นที่ 5.79 ล้านไร่ แบ่งเป็นชนิดข้าว 1. ข้าวหอมมะลิ พื้นที่ปลูก 26.57 ล้านไร่ ผลผลิต 9.38 ล้านตันข้าวเปลือก 2.ข้าวหอมปทุมธานี พื้นที่ปลูก 1.23 ล้านไร่ ผลผลิต 0.85 ล้านตันข้าวเปลือก 3. ข้าวเจ้า พื้นที่ปลูก 14.32 ล้านไร่ ผลผลิต 8.01 ล้านตันข้าวเปลือก 4. ข้าวเหนียว พื้นที่ปลูก 15.07 ล้านไร่ ผลผลิต 5.69 ล้านตันข้าวเปลือก 5. ข้าวอื่นๆ (ข้าวสี และข้าวอินทรีย์) พื้นที่ปลูก 0.22 ล้านไร่ ผลผลิต 0.08 ล้านตันข้าวเปลือก"รมว.เกษตรฯ กล่าว

          นอกจากนี้กระทรวงเกษตรฯ ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและผู้ว่าราชการทุกจังหวัดพิจารณาแผนที่เกษตรเพื่อบริหารจัดการเชิงรุก หรือ Agri-Map หากพื้นที่ใดไม่เหมาะสมปรับเปลี่ยนไปปลูกพืชอื่น พร้อมลงตรวจสอบพื้นที่กับผู้ว่าฯก่อนและหลังการผลิตให้ได้มาตรการที่ดี ปรับปรุงมาตรฐานโรงสี ส่งเสริมการผลิตข้าวคุณภาพ Q สนับสนุนปัจจัยการผลิตเครื่องจักรกลการเกษตร

          "พัฒนาการตลาดข้าวในประเทศและต่างประเทศ ให้มีการทบทวนมาตรฐานข้าวหอมมะลิการส่งเสริมการบริโภคข้าว มาตรการชะลอผลผลิตออกสู่ตลาดเพื่อสร้างความเข้มแข็งของกลไกลตลาด ขยายตลาดข้าวลักษณะเฉพาะมากขึ้นเช่น ข้าวอินทรีย์ ยกระดับการแข่งขันในตลาดโลก "รมว.เกษตรฯ กล่าว

          ด้านนายอนันต์ สุวรรณรัตน์ อธิบดีกรมการข้าว กล่าวว่าในช่วงฤดูนาปีมีความต้องการเมล็ดพันธุ์ข้าวปริมาณ 826,732 ตัน กรมการข้าวสามารถผลิตได้ 56,970 ตัน สหกรณ์การเกษตร จำนวน 31,190 ตัน ศูนย์ข้าวชุมชน จำนวน 49,448 ตันและผู้ประกอบการ จำนวน 105,768 ตัน ส่วนที่เหลืออีก จำนวน 583,356 ตันได้ส่งเสริมให้ชาวนาเก็บเมล็ดพันธุ์ข้าวไว้ใช้เอง รวมทั้งได้มีการประกาศลดราคาปุ๋ยเคมีสำหรับนาข้าวลงกระสอบละ 10-30 บาท และให้กรมชลประทาน จัดสรรน้ำเสริมจากปริมาณน้ำฝนหรือน้ำท่าในแต่ละพื้นที่ให้เพียงพอต่อการปลูกข้าวในพื้นที่ชลประทาน จำนวน 23 ล้านไร่