นายกานต์ กระกูลฮุน ประธานคณะทำงานเขตเศรษฐกิจพิเศษด้านการค้าการลงทุนพื้นที่ชายฝั่งภาคตะวันออก เปิดเผยว่า คณะทำงานฯ เตรียมสรุปรายละเอียดของสิทธิประโยชน์พิเศษในโครงการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจ ภาคตะวันออก หรืออีอีซี เพื่อจูงใจนักลงทุน เสนอให้กับรัฐบาลเห็นชอบภายใน 2 เดือนต่อจากนี้ เบื้องต้นจะให้สิทธิประโยชน์ทางด้านภาษีเป็นกรณีพิเศษกับนักลงทุนที่เข้ามา ลงทุนในอุตสาหกรรมเป้าหมายในเขตพื้นที่ส่งเสริมระยะแรก 3 จังหวัด คือ ฉะเชิงเทรา ชลบุรี และระยอง โดยยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา หรือเก็บสูงสุดเพียง 10% เช่นเดียวกับการขอวีซ่าจะให้ระยะยาว 5 ปี ซึ่งรายละเอียดทั้งหมดจะเร่งหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ได้ข้อสรุปโดยเร็ว

             นายกานต์กล่าวอีกว่า อีอีซีมีความสำคัญกับประเทศอย่างมากและเป็นจุดเปลี่ยนแปลงของประเทศไทยครั้งใหญ่จากช่วง 30 ปีที่ผ่านมาหลังจากไทยได้ทำโครงการอีสเทิร์นซีบอร์ด จึงต้องมีการตราพ.ร.บ.ขึ้นมาใหม่ เนื่องจากอุตสาหกรรมที่เข้ามาต้องมีมูลค่าสูง และรัฐจะต้องลงทุนโครงสร้างพื้นฐานอีกหลายอย่าง เบื้องต้นได้กำหนดการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาให้เป็นสนามบินเชิงพาณิชย์ ล่าสุดก่อสร้างอาคารผู้โดยสารเสร็จแล้ว สามารถรองรับผู้โดยสารได้ปีละ 3 ล้านคน การพัฒนาท่าเรือจุกเสม็ดให้เป็นท่าเรือพาณิชย์ด้านการท่องเที่ยว ส่วนด้านการลงทุนภาคเอกชนได้รับการยืนยันแล้วว่า ตอนนี้เอกชนมีความพร้อมลงทุนแล้ว คิดเป็นมูลค่ากว่า 1.5 ล้านล้านบาท ในช่วง 5 ปี เริ่มจากอุตสาหกรรมปิโตรเคมีลงทุนเพิ่มเติม 300,000 - 400,000 ล้านบาท โครงสร้างพื้นฐานสนับสนุน 400,000 ล้านบาท การก่อสร้างเมืองใหม่ทั้งที่อยู่อาศัย โรงพยาบาล สถานศึกษา 400,000 ล้านบาท และด้านการท่องเที่ยว 200,000 ล้านบาท

ที่มา : thaiquote