‘สมคิด’ ชู 3 เสาขับเคลื่อนประชารัฐ

by ThaiQuote, 4 กรกฎาคม 2559

“ผมดีใจมากที่คำว่าประชารัฐได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ขึ้นมา นั่นก็คือการผนึกกำลังของภาครัฐ-เอกชน-ประชาชนเดินหน้าไปพร้อมกัน ไม่ว่าโครงการอะไรก็ตามถ้าปล่อยให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งดำเนินการเพียงลำพังไม่มีทางขยับเขยื้อนได้ เมื่อมีคำว่าประชารัฐเกิดขึ้นทุกคนก็มองเห็นภาพว่าต้องร่วมมือกันทำ เช่นโครงการที่ยูนิลีเวอร์คิดขึ้นมาแล้วดึงพันธมิตรมาร่วมกันขับเคลื่อน มีอะไรติดขัดหรือต้องการให้รัฐสนับสนุนก็บอกมา เพื่อให้โครงการสำเร็จผลเป็นรูปธรรม” ดร.สมคิด กล่าว

                รองนายกรัฐมนตรียังกล่าวอีกว่า แม้หน้าที่ของตนจะรับผิดชอบโครงการเศรษฐกิจเป็นหลัก แต่โดยส่วนตัวก็ชอบทำงานสังคมและสิ่งแวดล้อม เพราะเชื่อว่าชาติจะเดินหน้าได้ต้องขับเคลื่อน 3 เรื่องพร้อมกันคือ เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ถ้าเศรษฐกิจดีแต่คนจนยังมีมากกว่าคนรวยหลายเท่าตัว ก็ย่อมเกิดความเหลื่อมล้ำนำไปสู่กลียุคได้ รัฐบาลนี้จึงดำเนินการขับเคลื่อนทั้ง 3 มิติคือในด้านเศรษฐกิจได้พยายามเพิ่มรายได้ลดรายจ่ายภาคประชาชน ลดความเหลื่อมล้ำในสังคม สร้างการลงทุนรูปแบบใหม่ ๆ เช่นการสร้างกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพ รวมถึงส่งเสริมการลงทุนอุตสาหกรรมแห่งอนาคตในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษอีสเทิร์น อีโคโนมิก คอริดอร์ด้วยนโยบายโปร่งใส ตรวจสอบได้

ที่ผ่านมารัฐบาลได้ออกพ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างเพื่อส่งเสริมให้การประมูลงานของรัฐเกิดความโปร่งใส การใช้ระบบ "ข้อตกลงคุณธรรม" เพื่อเปิดโอกาสให้ภาคเอกชน ประชาชน บุคคลภายนอกเข้ามาติดตามโครงการลงทุน การประมูลงาน ตลอดจนนโยบาย E-Payment ที่สร้างระบบรับจ่ายเงินด้วยความโปร่งใสมากขึ้น เมื่อธรรมาภิบาลเกิดขึ้นจีดีพีจะขยายตัวและเติบโตอย่างยั่งยืน ด้านสังคมก็มีการส่งเสริมการดูแลผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ การสร้างบ้านเพื่อผู้มีรายได้น้อยทั่วประเทศ มีระบบสาธารณสุขโมบาย เป็นต้น และยังส่งเสริมคนวัยเกษียณให้กลับมาทำงาน โดยสร้างแรงจูงใจทางภาษีกับบริษัทที่จ้างผู้สูงอายุทำงาน ในขณะที่ด้านสิ่งแวดล้อม รัฐบาลไม่ใช่แค่รณรงค์ให้อนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติเท่านั้น แต่ยังรณรงค์ให้ใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เกิดประโยชน์สูงสุด ซึ่งทั้ง 3 เรื่องไม่ใช่ให้รัฐบาลทำอยู่ฝ่ายเดียว แต่ภาคเอกชนและประชาชนต้องช่วยกันขับเคลื่อนตามนโยบายประชารัฐ