ซึ่งถือเป็นจำนวนที่ไม่ต่ำมากแต่ส่วนหนึ่งเชื่อว่าที่ประชาชนยังไม่เข้ามาลงทะเบียนเนื่องจากภาครัฐยังไม่ได้กำหนดให้สวัสดิการใดที่เป็นพิเศษ ดังนั้นส่วนนี้รัฐบาลจึงมีแนวคิดช่วยเหลือผู้ที่มีรายได้น้อยที่มาลงทะเบียนตามเวลาที่กำหนด ด้วยการให้สวัสดิการเพิ่มเติมจากเดิมและตรงจุดมากขึ้น อาทิ การช่วยเหลือค่าน้ำ - ค่าไฟจำนวนครึ่งราคาของที่ใช้จริง การอุดหนุนราคาก๊าซหุงต้มในราคาต่ำกว่าราคาทั่วไป รวมถึงเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ ที่จะได้รับเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน ที่600 บาทต่อเดือน หรือการช่วยเหลือค่าครองชีพต่าง ๆ ซึ่งจะสามารถเริ่มดำเนินการในช่วงต้นปีหน้า ทั้งนี้มองว่าการลงทะเบียนดังกล่าวเป็นการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยที่ตรงจุดและตรงกับกลุ่มเป้าหมายมากกว่าที่ผ่านมา และจะช่วยให้การใช้จ่ายเงินงบประมาณมีประสิทธิภาพมากขึ้น

          นายอภิศักดิ์ ยังกล่าวต่อว่าสำหรับประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่ยังไม่ได้มีการลงทะเบียน หรือลงทะเบียนไม่ทันในวันที่ 15 สิงหาคมนี้ รัฐบาลจะไม่ตัดสิทธิ์ในการได้รับสวัสดิการต่าง ๆ โดยรัฐบาลจะเปิดให้ลงทะเบียนเป็นประจำในช่วงเดือนกันยายนของทุกปีแต่หากต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลือเรื่องค่าครองชีพโดยเร็ว ควรมาลงทะเบียนภายในเวลาที่กำหนดในปีนี้