ดีเดย์ต.ค. เดินหน้าจัดงาน “Creative Thailand” ชูศักยภาพ “5 F” หนุน SMEs - Startup

by ThaiQuote, 9 สิงหาคม 2559

สำหรับในเรื่องของนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ หรือ Creative Economy นั้น ตนได้มอบหมายให้ ดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และ ดร.วีระศักดิ์ โค้วสุรัตน์ ประธานกรรมการบริหารการพัฒนาพื้นที่พิเศษเพื่อการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน (กพท.) เป็นผู้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยจะมีการจัดงาน Creative Thailand ขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมนี้ เพื่อให้เกิดการปักหมุดเริ่มต้นการดำเนินการตามนโยบาย โดยจะเน้นไปที่เรื่องของศิลปวัฒนธรรม อาหาร แฟชั่น คอนเทนต์ เอ็นเตอร์เทนเมนท์  ซึ่งสิ่งเหล่านี้ล้วนเกี่ยวข้องกับการเป็น Creative โดยตั้งเป้าจะจัดอย่างต่อเนื่องในช่วงปลายปี ทั้งนี้ส่วนหนึ่งเพื่อเป็นการกระตุ้นภาคการท่องเที่ยวในช่วงไฮ-ซีซั่น

ด้านดร.สุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวกับ “Thai Quote” ว่า Creative Economy ของประเทศไทยนั้นมีศักยภาพที่สามารถเติบโตได้ ซึ่งขณะนี้เรามองที่เรื่องของ SMEs ที่นำเสนอรูปแบบของการใช้ Creative อยู่ไม่น้อย ทั้งที่เน้นทางด้านวัฒนธรรมและที่เน้นในเรื่องของความคิดสร้างสรรค์ นี่คือกลุ่มแรก คือกลุ่ม Start up ซึ่งมีศักยภาพ และจะมีการส่งเสริมกลุ่มที่ว่ามาด้วยการเปิดตัวภายในงาน “Creative Thailand” โดยจะนำเรื่องของกลุ่มคนที่ทำเรื่อง Creative Startup มารวมกันภายในงานนี้

      นอกจากนี้ยังมีเรื่องของ Creative Design และ Creative Thinking เช่น เรื่องของการออกแบบดีไซน์สินค้าโอทอป รูปแบบของผลิตภัณฑ์ ซึ่งทำให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น หรือการนำเอาความคิดสร้างสรรค์เหล่านี้เข้าไปช่วยในกลุ่มของ SMEs สิ่งต่าง ๆเหล่านี้จะมีการเปิดตัวภายในงานดังกล่าว ประมาณเดือนตุลาคมที่จะถึงนี้ 

     หลังจากนั้นก็จะนำเอาศักยภาพของประเทศที่เรียกว่า 5F  คือ 1.Fighting อย่าง มวยไทย 2.Festival เทศกาลต่าง ๆ 3.Food อาหารประจำภาคต่าง ๆ 4.Fashion การแต่งกายในแต่ละภูมิภาค และ 5.Film ภาพยนตร์ต่าง ๆมาจัดไว้ใน “Creative Tourism” ซึ่งจะเป็นการยกระดับเพื่อสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวเพิ่มมากขึ้น โดยมีการวางแผนไว้ว่าหลังจากมีการเปิดตัว  “Creative Thailand” ในเดือนตุลาคม ถัดจากนั้นเดือนพฤศจิกายน และเดือนธันวาคมก็จะเป็นเรื่องของ “Creative Tourism” ต่อไป

     อย่างไรก็ตามขณะนี้ได้ตั้งเป้าของการดำเนินการตามนโยบายดังกล่าวเป็นระยะเวลาประมาณ 6 เดือนนับตั้งแต่เดือนตุลาคมนี้เป็นต้นไป ซึ่งจะเป็นการสร้างแรงกระเพื่อมให้เกิดการรับรู้ต่อนโยบายดังกล่าวและสามารถนำไปปฏิบัติได้จริงก่อให้เกิดการพัฒนาในกลุ่มธุรกิจดังที่กล่าวมาต่อไป